มหกรรมปล้นพลังงาน เรื่องใหญ่เรื่องใหม่ในอ่าวไทย
ด้วยกลยุทธ แกล้งยอมเสียสิทธิสภาพเหนืออาณาเขต [extra territoriality]บริเวณพื้นที่รอบอ่าวไทยให้อเมริกา ภายใต้กรอบ "เขตปลอดภัยของฐานทัพ" หรือ "regional security zone" แอบอ้างการเลือกข้างสหรัฐแทน...ฝ่ายจีน(2ขั้วอำนาจโลกที่กำลังเข้าสู่สภาวะสงครามเย็นกันในขณะนี้) โดยใช้รธน. มาตรา ๑๙๐ ที่แก้ไขใหม่และผ่านสภาไปสดๆร้อนๆนี้ "เปิดทางและปิดดีล" สมประโยชน์ของกันและกันทั้งในด้านความมั่นคงทางการทหารของสหรัฐในภูมิภาคนี้ กับ ทรัพยากรสุดล้ำค่าแหล่งสุดท้ายของโลกในอ่าวไทยเรา ที่ถูกผูกติดให้เป็นเรื่องเดียวกันอย่างสุดแยบยล
นี่จึงเป็นคำตอบ ต่อข้อสงสัยจากกรณีที่.-
1.ผู้นำสหรัฐมาเยือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์แต่ไก่โห่ ตลอดจนเหล่าแม่ทัพนายกองระดับบิ๊กๆของสหรัฐอย่างไม่ขาดสาย
2.โครงการที่อู่ตะเภา สัตหีบ ที่ทางการทหารของสหรัฐดำเนินการมาแบบมีนัยแอบแฝง ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์นี้ ที่ถูกเปิดโปงมาอย่างต่อเนื่องจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องพลังงานในอ่าวไทยนี้โดยตรง
3.เรื่องนี้ จึงยังผลต่อท่าทีของจีนที่ไม่สู้ดีนัก ที่มีต่อไทยอยู่ในปัจจุบัน
(ข้อมูลย่อมาจากเพจคุณวีระ สมความคิด)
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กับ อเมริกา จะประกาศเขตปลอดภัยของฐานทัพ ซึ่งอาจมีรัศมีครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.กม. ซึ่งจะกินพื้นที่ในหลายจังหวัด และครอบคลุมแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย - กัมพูชา ที่มีพลังงานมากมายมหาศาล บริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งต่อไปจะไม่มีใครสามารถเข้าไปในเขตปลอดภัยนี้ได้ เพราะต้องผ่านการอนุญาตจากสหรัฐ
ยักษ์ใหญ่เซฟรอน นักล่าทรัพยากรสัญชาติอเมริกาจะเป็นบริษัทผูกขาดรายเดียวที่จะเข้ามาขุดขโมยพลังงานในอ่าวไทยนี้ได้ ซึ่งในขณะนี้ เซฟรอนเอง ได้สัมปทานใหม่จากรัฐบาลไทยไปแล้ว 15 แปลง (หรืออาจมากกว่านี้) อีกทั้งในฝั่ง กพช.เอง เชฟรอนก็ได้เข้าดำเนินการสำรวจและขุดเจาะในพื้นที่ 1.2 ล้านเอเคอร์ (4,709 ตารางกิโลเมตร) ในบล็อก เอ ของอ่าวไทยมาก่อนหน้าแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจากเพจคุณวีระ สมความคิด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น