Kings of Thailand

กินฝึกจิต วิ่งฟิตกาย เทรนด์สุขภาพดีมีสมาธิ/สูตรยารักษาเบาหวาน ความดัน ฯลฯ

/data/content/24259/cms/e_bhijruwy1245.jpg


ประโยชน์ของการฝึกสมาธิเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางว่าให้คุณมากมาย ทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย มีสติรับรู้ ปลอด โปร่ง และที่สำคัญ คือ ช่วยลดความเครียดได้ดี
            แต่เมื่อนึกถึงคำว่า “การฝึกสมาธิ” แน่นอนว่าหลายคนจะนึกถึงการนั่งหลับตานิ่งๆ กำหนดลมหายใจเข้าออก หรือเดินจงกรมเพื่อฝึกฝนจิตใจ ในปัจจุบันมีการประยุกต์การทำสมาธิให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มากขึ้น การฝึกสมาธิสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาและไม่จำกัดว่าต้องอยู่แต่ในวัดอีกต่อไป
          วิ่งสมาธิ กายเคลื่อนไหวใจต้องนิ่ง
          ย้อนหลังไปเพียงไม่กี่ปี เมืองไทยมีนักวิ่งหน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนไม่น้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงของภาพยนตร์ไทยที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวหัน มาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ขณะที่กระแสวิ่งมาราธอนกำลังได้รับความสนใจ ก็มีการวิ่งแนวทางใหม่ๆ ออกมาให้ทำความรู้จัก เรียกว่า “วิ่งสมาธิ” ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก
          สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย และครูผู้สร้างนักวิ่งหน้าใหม่ อธิบายว่า การวิ่งสมาธิ เป็นการออกกำลังทางกายและออกกำลังทางจิตไปด้วยกัน ทำได้โดยวิ่งช้าๆ ไปพร้อมกับกำหนดจิตด้วยคำว่า “พุทโธ” หรือนับก้าว ซ้ายขวาซ้าย หรือวิ่งไปพร้อมกับสวดมนต์ตามบทสวดของแต่ละศาสนาพร้อมกับหายใจเข้าและหายใจออก
      /data/content/24259/cms/e_dlnopqrtxy12.jpg    “ข้อดีของการวิ่งสมาธิแตกต่างจากการวิ่งทั่วไป ผลที่ดีต่อจิตใจที่เห็นได้ชัด คือ ผู้วิ่งสมาธิจะเกิดความสุข จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน อารมณ์สดชื่นแจ่มใส วิ่งได้นานขึ้น เหนื่อยล้าน้อยลง ส่วนผลทางกายที่เห็นได้ชัดก็คือ อัตราการเต้นของชีพจรลดลง หัวใจเต้นช้าลง ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดีขึ้น”
          เมื่อถามว่า นักวิ่งที่จะเริ่มต้นวิ่งสมาธิต้องเตรียมตัวอย่างไร อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติไทย แนะนำว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับวิ่งสมาธิไม่ต่างจากการวิ่งออกกำลังกายทั่วไป คือ ต้องสวมใส่ชุดวิ่งที่สบาย ไม่รุ่มร่ามหรือรัดแน่นจนเกินไป สถานที่จะวิ่งควรเป็นพื้นที่เรียบ ไม่ขรุขระเป็นหลุมบ่อ หรือมีทางหักเลี้ยวบ่อยๆ ส่วนการสัญจรต้องไม่แออัด จอแจ ปราศจากยวดยาน
          “คนที่ไม่ใช่นักวิ่งหรือเพิ่งเริ่มต้นวิ่งควรจะเริ่มฝึกวิ่งไปพร้อมกับ การฝึกสมาธิด้วยจะดีมาก นักวิ่งจะใช้ลมหายใจเข้าออกเป็นสมาธิรับรู้ถึงระดับความเหนื่อย เพื่อให้มีการวบคุมจังหวะการวิ่งให้เหมาะสมกับพลังงานที่มีอยู่ เวลาวิ่งควรเป็นช่วงอากาศเย็นสบาย ปลอดโปร่ง ซึ่งจะทำให้การวิ่งสมาธิเกิดผลที่ดีที่สุด อาจเป็นช่วงเช้าหรือเย็นก็ได้
          ผู้วิ่งควรอบอุ่นร่างกายก่อนการวิ่ง และผ่อนคลายหลังการวิ่งทุกครั้ง ท่าทางการวิ่งไม่ฝืนเกร็งจากการวิ่งประจำวัน มือและเท้าเคลื่อนไหวสอดประสานกันให้สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง และควรวิ่งอย่างน้อยวันละ 30 นาที ผู้ที่เริ่มใหม่จะใช้การเดินสลับกับการวิ่งด้วยก็ได้” ครูผู้สร้างนักวิ่งหน้าใหม่แนะ
          กินสมาธิ ฝึกดีมีผอม
          การฝึกสมาธิขณะรับประทานอาหาร หรือกินสมาธิ สำหรับเมืองไทยยังไม่เป็นที่นิยมนัก แต่ในสหรัฐและญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้ผู้ฝึกมีสติ รับรู้ถึงความต้องการของร่างกายและจิตใจแล้ว ผลพลอยได้คือ ช่วยผ่อนคลายความเครียด ระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี เนื่องจากกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กไม่ต้องทำงานหนัก เป็นวิธีช่วยลดความอ้วนได้อีกทางหนึ่ง
          /data/content/24259/cms/e_defhjkqrsvz5.jpgดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การฝึกสมาธิด้วยการกินต้องมีการฝึกฝน เช่นเดียวกับการทำสมาธิในแบบอื่นๆ กำหนดลมหายใจรูปแบบเดียวกับการฝึกโยคะ โดยก่อนจะกินอาหารแต่ละครั้งให้ผ่อนคลายอารมณ์ เลือกที่นั่งในที่สงบและไกลจากสิ่งรบกวน งดคุยโทรศัพท์มือถือ ดูทีวี หรือฟังวิทยุ เพื่อที่จะให้ความสนใจอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า และวิเคราะห์ถึงคุณค่าและพลังงานที่จะได้รับจากอาหารที่กินเข้าไป
         “การใช้อุปกรณ์การกินที่มีขนาดเล็กจะช่วยให้เราสามารถฝึกให้ร่างกายได้ รับอาหารที่ช้าลง คนญี่ปุ่นจึงฝึกสมาธิโดยใช้ตะเกียบกินอาหาร แต่เมืองไทยใช้ช้อนโต๊ะ เราซดน้ำแกง น้ำกะทิโดยไม่ได้พิจารณาอาหารก่อน นอกจากนี้ เราควรฝึกวางช้อนส้อมเมื่อตักอาหารหนึ่งคำ เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย จากนั้นก็เคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด รับรู้และพิจารณารสชาติและคุณค่าของอาหาร โดยในแต่ละคำควรจะเคี้ยวประมาณ 15-25 ครั้ง ก่อนที่จะกินคำใหม่” ดร.ฉัตรภา กล่าว และว่าผู้ที่เร่งรีบรับประทานอาหาร เคี้ยวอาหารไม่ละเอียดและกลืนเร็ว จะไม่รับรู้ถึงอาหารที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ไม่รู้สึกอิ่ม และต้องการอาหารจำนวนมากโดยไม่จำเป็น ผลที่ตามมาคือ เกิดไขมันสะสมในร่างกาย และกลายเป็นคนอ้วนในเวลาต่อมา
           ดร.ฉัตรภา อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้หลายคนบอกว่าต้องเร่งรีบรับประทานอาหาร จึงไม่มีเวลาพิจารณาหรือทำสมาธิระหว่างมื้อ แต่เวลาที่เหมาะสมในการรับประทานอาหารแต่ละครั้งควรอยู่ระหว่าง 2030 นาที และหลังจากมื้ออาหารควรนั่งพัก 35 นาที เพราะจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
          “ถ้ามีเวลาน้อยก็ต้องลดปริมาณอาหารลงด้วย ไม่ควรอัดทุกสิ่งทุกอย่างลงไปในท้องเพราะหิว และกรณีที่เราเลือกอาหารไม่ได้ ก็ต้องรู้และพิจารณาอาหารในแต่ละมื้อว่าให้ประโยชน์อย่างไร และมื้อต่อไปเราควรรับประทานอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าที่เหมาะสม” อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา กล่าวทิ้งท้าย
          แม้ว่าหลักของการวิ่ง และกินสมาธิจะทำได้ไม่ยาก แต่ทั้งสองอย่างจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ผู้ฝึกจะต้องมีความตั้งใจจริงและมีวินัย เช่นนี้แล้วสุขภาพกายและสุขภาพจิตก็จะแข็งแรงและสดใสก็ไม่ไกลเกินเอื้อม


          ที่มา : เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์




เวลาเกิด บอกตัวตนของคุณ


จริงมั้ย..ลองอ่านดู..แล้วเทียบกับตัวคุณนะคะ

เวลาเกิด บอกตัวตนของคุณ

ผู้ที่เกิดเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า...

ช่วงเวลานี้เป็นเวลากระต่าย จะทำให้คุณเป็นคนรักสวยรักงาม ทำอะไรละเอียดอ่อน สะอาดสะอ้าน ชอบแต่งตัวให้ดูดีเสมอ บุคลิกของคุณจะค่อนข้างสุภาพดูอ่อนโยน พูดจาหวานและนอบน้อมถ่อมตัว มีมารยาทเป็นเลิศ ดูแล้วผู้ดี๊ผู้ดี สงบเงียบเรียบร้อยเป็นผู้ใหญ่ ด้านนิสัยใจคอแม้จะดูเงียบนุ่มปานนั้น ลึก ๆ มั่นใจและทะเยอทะยานไม่น้อย เป็นคนเข้มแข็งข้างใน รู้จักระมัดระวังรอบคอบ เป็นนักการทูต จิตวิทยาสูง มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นดี ใจกว้าง โกรธง่ายหายไว จิตใจดี ใจอ่อน ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือ รสนิยมดี

ผู้ที่เกิดเวลา 7 โมงเช้าถึง 9 โมงเช้า

เวลานี้เป็นเวลามังกร บุคลิกของคุณจะดูหยิ่งทะนงมาก ท่าทางสง่าผ่าเผย ดูหัวสูง ติดหรู ความทะเยอทะยานจะเห็นได้ชัด คุณดูน่าเกรงใจ เข้าถึงยาก มีความเป็นผู้นำสูง นิสัยของคุณจริง ๆ แล้วเป็นคนใจกว้างและเด็ดเดี่ยว รักศักดิ์ศรี โมโหร้าย บุ่มบ่าม มุทะลุ ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ชอบเรื่องเล่ห์เหลี่ยม ในด้านดีอยู่ที่เป็นหลักพึ่งพิงได้ รับผิดชอบสูงและขี้สงสาร เป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียวนะ อนาคตของคุณค่อนข้างแจ่มแจ๋วด้วยความมุ่งมั่นบากบั่นของคุณนั่นแหล่ะ

ผู้ที่เกิดเวลา 9 โมงเช้าถึง 11 โมงเช้า

คนที่เกิดสาย ๆ เวลานี้ซึ่งเป็นเวลางู โดยมากจะหน้าตาดี แต่งตัวดีเสมอ ด้วยของหรูหราราคาแพงหรือมียี่ห้อ ภาพพจน์ของคุณต้องมาก่อนเสมอบุคลิกของคุณดูเงียบขรึม เรียบร้อยสุภาพนุ่มนวล มายาทดี พูดจาหวานหูชื่นใจ นิสัยข้างในค่อนข้างฉลาด เก็บความรู้สึกและความต้องการได้นิ่งลึกมาก คุณรักการแข่งขันชิงดีชิงเด่น มีความทะเยอทะยานสูง ชอบทำตัวเด่น อยากมีชื่อเสียง เป็นนักวางแผนผู้ชาญฉลาดใจแข็งไม่หวั่นไหวอ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ ถ้าจะล้วงความลับจากตัวคุณคงไม่ง่ายนักหรอก

ผู้ที่เกิดเวลา 11 โมงเช้าถึงบ่ายโมง

เวลาเกิดช่วงนี้เป็นเวลาม้า ทำให้คุณมีบุคลิกของนักกีฬา แข็งแรงอดทน ร่าเริงคึกคัก ชอบสนุกสนาน เรื่องตลกโปกฮาล่ะชอบนัก ความที่รักอิสระเสรีกับการเป็นนักผจญภัย ถือเป็นจุดเด่นในตัวคุณ มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอบแหกกฎ นิสัยของคุณเป็นคนใจกว้าง กระตือรือร้นมากแต่รอบคอบไม่เป็น ใจร้อน ชอบทำก่อนคิด กล้าลุยไปข้างหน้า จิตใจเข้มแข็ง มานะบากบั่น มีความจริงใจสูง รักเพื่อนและครอบครัว เวลามีทิฐิจะเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้นสุด ๆ เวลาน่ารักจะมีชีวิตชีวาน่าตื่นเต้น เจอมรสุมก็ยังลุกขึ้นสู้ได้ ยิ้มได้ทั้งน้ำตาเลยนะคุณน่

ผู้ที่เกิดเวลาบ่ายโมงถึงบ่าย 3 โมง

คุณที่เกิดเวลานี้เป็นเวลาแพะ จะเป็นคนใจดีอ่อนโยนจนถึงขั้นขลาดเขิน บุคลิกท่าทางของคุณจะสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวลมีมารยาท ดูสุขุมใจเย็น ไม่มีพิษไม่มีภัย ขี้อายแต่มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างฝัน มีไอเดียมัน ๆ กับเรื่องตลกจี้เส้น ที่ทำให้หัวเราน้ำหูน้ำตาไหล บางเวลาดูเศร้าซึมเพราะชอบคิดมากเกินเหตุ จิตใจดีทำร้ายใครไม่เป็น ถ้าถูกรังแกจะสู้ยิบตา มีความมั่นใจซ่อนไว้ใต้ท่าทางอ่อนโลกติ่ม ๆ คุณเป็นคนซื่อตรงรักสงบ เกลียดความรุนแรง อะไร ๆ ก็ดีหมด ยกเว้นเรื่องดื้อรั้นของคุณ ครองแชมป์ตลอดกาลเลย

ผู้ที่เกิดเวลาบ่าย 3 โมงถึง 5 โมงเย็น

คุณที่เกิดเวลาบ่าย ๆซึ่งเป็นเวลาของลิง จะมีอิทธิพลทำให้คุณค่อนข้างแอ็กทีฟไม่อยู่เฉย บุคลิกของคุณดูเปิดเผย ใจร้อนและซุ่มซ่ามนิสัยของคุณเหมือนเด็ก ๆ ชอบเล่นพิสดาร คุณเป็นคนฉลาดหัวไว มีไหวพริบกล้าพูดกล้าทำ ตรงไปตรงมา เป็นนักวางแผนและรู้จักเอาตัวรอด มีเล่ห์กลแต่ไม่ทำร้ายใครลับหลัง มีความสามารถรอบตัว ปรับตัวเข้ากับคนได้ทุกระดับ ทุ่มเทกับการงานมาก งานดีเชื่อมือได้ เสน่ห์ในตัวอยู่ที่ความขี้เล่นมีชีวิตชีวาเฮฮา แม้ท่าทางจะดูคล้ายกะล่อนเล็ก ๆ แต่ก็หนักแน่นจริงใจมากนะ

ผู้ที่เกิดเวลา 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม

ช่วงหัวค่ำเป็นเวลาไก่ ส่งผลให้คุณเป็นคนเข้มแข็ง หยิ่งยโส หัวรุนแรง ขวางโลก และหัวโบราณ คุณเป็นคนที่ชอบ แต่งตัวใช้แต่ของดีมีราคา บุคลิกขี้อวดไม่ใช่เล่น ว่าฉันเนี่ยรสนิยมดีนะ ในส่วนลึกของจิตใจคุณเป็นนักอนุรักษ์นิยม เจ้าระเบียบ จู้จี้ ขี้บ่นเก่ง หงุดหงิดง่ายดาย ไม่ยอมเสียเงินแบบไร้ค่า ยกเว้นเรื่องภาพพจน์ล่ะก็โอ.เค. คุณมีหัวในการบริหารควบคุม มีความเด็ดขาดละเอียดถี่ถ้วน ต่อสู้กับอุปสรรคไม่มีถอย ยามอารมณ์ดีจะเป็นคนสนุก ชอบล้อเล่น ใจกว้าง มีน้ำใจนักกีฬา ไม่ชอบการใช้อำนาจ เกลียดคนอวดเบ่งที่สุด

ผู้ที่เกิดเวลา 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม

คุณทีเกิดช่วงเวลานี้เป็นเวลาของสุนัข ทำให้คุณเป็นคนรักคุณธรรม ความถูกต้องซื้อสัตย์จริงใจมาก จนถึงขั้นยึดมั่น ถือมั่นทีเดียว ยืดหยุ่นไม่ค่อยเป็น คิดและทำอะไรก็ตามตรง ทื่อไปหมด ไม่กล้าแหกกฎระบบระเบียบจนเกินไป ชีวิตถึงไม่ค่อย มีอะไรแปลกใหม่ บางครั้งจึงดูน่าเบื่อและแสนเซ็ง มีความขยัน ฉลาด แต่พลิกแพลงไม่เป็น เอาตัวไม่ค่อยรอด คุณเกิดมาเป็นนักปกป้องคุ้มครองคนอื่นมองโลกแบบตรงไปตรงมา ไม่เพ้อฝัน ขาดอารมณ์โรมานซ์ แต่ก็เป็นคนตลกจี้เส้นเพราะมองโลกในแง่ดี เรื่องเสียสละเพื่อคนอื่น คุณเป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิงในเรื่องนี้เลยล่ะ ซื่อไปนิดเซ็งไปหน่อยแต่จริงใจไม่มีใครเทียบได้เลย

ผู้ที่เกิดเวลา 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม

คุณที่เกิดเวลาหมู อันเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ทำให้คุณขี้เกียจนิด ๆ เฉื่อยหน่อย ๆ คุณรักความเรียบง่ายไม่มากเรื่อง สุภาพอ่อนโยน ใจดี และอบอุ่น บุคลิกออกจะนุ่ม ๆ คุณมีจิตใจดี จริงใจ มีอารมณ์สุนทรีย์ รักดนตรี ศิลปะสวยงาม มีความโรมานซ์ในหัวใจ แม้จะพูดน้อย แต่เอาอกเอาใจเป็นเลิศ คุณชอบแต่งตัวแบบผู้ดี๊ผู้ดี รสนิยมดี ชอบทำอาหารและชอบกินด้วย รูปร่างจึงออกจะแข็งแรงและสมบูรณ์ คุณเป็นคนใจกว้างและชอบให้อภัย หากถูกทำร้ายจะกลายเป็นหมูป่า สู้ถวายชีวิต ความคิด และการกระทำจะเป็นแบบค่อยๆเป็นค่อย ๆ ไป รอบคอบใจเย็นจนกว่าจะมั่นใจนั่นแหล่ะถึงจะลุย ไม่ว่าคุณจะหญิงหรือชาย คุณจะเป็นแม่บ้านพ่อเรือน และรักครอบครัวมาก

ผู้ที่เกิดเวลา 5 ทุ่มถึงตี 1

เป็นเวลาของหนู คุณที่เกิดเวลานี้จะมีบุคลิกกระตือรือร้น ร่าเริงปราดเปรียวสดใส แต่มีความระแวดระวัง ฉลาดหัวไวไหวพริบดี ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม บุคลิกท่าทางดูขรึม พูดน้อย เฉยชาแต่มีมารยาท รักเพื่อน มีความสุขในหมู่เพื่อน ๆชอบช่วยเหลือและมีน้ำใจ จุดเด่นคือความขยัน และสะสมเก่งคุณมักมีเงินสำรองช่อนไว้ไม่มีใครรู้หรอก ชอบวางแผนการเงิน ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย เป็นคนมีระเบียบ บากบั่นมุ่งมั่นสูง ปรับตัวเก่ง มีความรักแบบผู้ให้ รักบ้านรักครอบครัว แต่ก็รักอิสระ ไม่อยากถูกผูกมัด กว่าจะลงเอยกับใครสักคน คิดนาน คิดลึก จนผมหงอกเลยเชียวล่ะ

ผู้ที่เกิดเวลาตี 1 ถึงตี 3

เวลานี้เป็นเวลาของวัว ทำให้คุณทำอะไรช้ากว่าชาวบ้าน บุคลิกท่าทางแข็งแรงบึกบึน และอึดเป็นบ้าเลย เป็นคนเฉื่อยแบบใจเย็น ๆ โกรธยากแต่โกรธทีเหมือนระเบิดลง ข้อดีอยู่ที่มีความบากบั่นมีระเบียบ ขยันอดทนหนักแน่น อยู่ในจำพวกสมบูรณ์แบบนิยม ทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีเล่ห์เพทุบายกับใครเค้าหรอก คุณน่ะทื่อตรง จนไม่ค่อยทันใคร ขาดอารมณ์ขัน ตลกก็ตลกแบบฝืดๆ โดยปกติเป็นคนอดทนมาก ไม่ชอบความรุนแรง การทะเลาะวิวาท เลี่ยงได้จะเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้คุณจะเปลี่ยนร่างเป็นวัวกระทิงขวิดสุดฤทธิ์ทีเดียว

ผู้ที่เกิดเวลาตี 3 ถึงตี 5

คุณที่เกิดเวลานี้จะเป็นคนดวงแข็ง เพราะนี่เป็นเวลาเสือ ส่งผลให้คุณหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าวเข้มแข็งและดูมีอำนาจ คุณมีจิตใจที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว มั่นใจในตัวเองสูง แต่ขาดความรอบคอบ เพราะอารมณ์อยู่เหนือหัวใจ แต่ก็เป็นคนใจดี ชอบ เสียสละ ใจกว้างไม่จุกจิกกับเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ มีความรับผิดชอบ ชอบฉายเดี่ยวไม่อยู่ติดที่ คุณมักจะมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ขี้โม้โอ้อวด หลงใหลเรื่องรักใคร่โรแมนติก ชอบเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปชั่ววูบ มีความเซ็กซี่เป็นเสน่ห์ส่วนตัวที่น่าดึงดูดใจ ข้อเสียมีแค่ไม่รู้จักยอมออมชอมบ้างขาวเป็นขาว ดำเป็นดำ จะหาสีเทาจากคุณน่ะยากเหลือเกิน
See More

“สนธิ” ชี้ “บิ๊กตู่” ชัดแล้วเลือก “แม้ว” อยู่เพื่อรอเกษียณ









“สนธิ” ชี้ “บิ๊กตู่” ชัดแล้วเลือก “แม้ว” อยู่เพื่อรอเกษียณ โยน “สุเทพ” เอาไงต่อ จี้ใช้อัยการศึกลุย http://astv.mobi/AbCnt1U

อดีตแกนนำพันธมิตรฯ วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ชี้ “ประยุทธ์” ชัดแล้วยืนข้าง “ทักษิณ” ระบุขึ้นอยู่กับ “สุเทพ” จะเอายังไง เชื่อถึงศาล รธน.ฟัน “ยิ่งลักษณ์” พ่วง ครม.คดี “ถวิล” ก็ยังรักษาการต่อ แขวะ ผบ.ทบ.น้ำเสียงสีหน้าเริ่มเหมือน “แม้ว” มัวแต่เต้นชะชะช่ารอวันเกษียณ รับบ้านเมืองตันไปหมดหาทางออกไม่ได้ จี้ประกาศกฎอัยการศึก เหตุยิงบึ้มตายรายวัน แนะปฏิรูปต้องมีหลักการชัด ยันแก๊งแดง-พท.ต้นตอความรุนแรง
      วันนี้ (2 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองว่า ตนคิดว่ามันมีกลุ่มอยู่ 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มของพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กลุ่มนายสุเทพ กับพรรคประชาธิปัตย์นี่คือกลุ่มเดียวกัน กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มทหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะยืนข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการบอกนายสุเทพให้นายสุเทพช้ำใจว่านายรัฐมนตรีคนกลางเลิกเพ้อฝันได้แล้ว และทหารจำเป็นต้องยอมรับอำนาจรัฐ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ยอมบอกว่าอำนาจรัฐนั้นถ้ามันใช้อำนาจรัฐในการรังแกประชาชน ในการโกงชาติโกงบ้านโกงเมือง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังยอมรับอยู่เหมือนเดิม แล้ว พล.อ.ประยุทธ์บอกให้ไปเลือกตั้งดีกว่า เพราะฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ส่งสัญญาณให้นายสุเทพชัดเจนแล้วว่าให้ไปเลือกตั้ง ก็ขึ้นอยู่กับนายสุเทพจะดำเนินการยังไงต่อ จะเดินหน้ายังไง
    
       นายสนธิกล่าวว่า มันก็มีตัวแทรกคือคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งประกาศรับวินิจฉัย กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และครม.เปลี่ยนตัวนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งวินิจฉัยถ้าผิดจริง ครม.ทั้งชุดก็ต้องออกหมด แต่ ครม.ชุดนี้ก็จะไม่ยอมออกอีก เพราะเขาบอกเขารักษาการ เพราะฉะนั้นปัญหาการเมืองไทยในขณะนี้คือวิกฤติหลักนิติรัฐ ซึ่งไม่มีใครยอมใคร กฏหมายนี้มันแปลได้ทั้งซ้าย ทั้งขวา คนที่ต้องมาจบก็คือทหาร พล.อ.ประยุทธ์ก็บอกไม่ยอมจบไปเลือกตั้งดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งพูดทีไรน้ำเสียงและหน้าตาเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณไปทุกวัน ไม่รู้เป็นอะไร เพราะฉะนั้นบ้านเมืองก็มาถึงทางตัน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพราะเครือข่ายของการเลือกตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณวางไว้เรียบร้อยหมดแล้ว บ้านเมืองก็จะมีแต่ทางตัน เศรษฐกิจก็ฉิบหายไปทุกวันๆ นักการเมืองไม่เดือดร้อน เพราะนักการเมืองโกงชาติมีเงินอยู่ในกระเป๋าเยอะแยะไปหมด พ.ต.ท.ทักษิณก็ใช้เงินใช้ทองกับข้าราชการประจำ กระบวนการยุติธรรม ทหารบางคน เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เงินจากประเทศไทยไปอย่างมากมายมหาศาลจากภาษีพวกเราทั้งนั้น
    
       “ถ้าคุณถามว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นไงก็คือมันตันไปหมดแล้วหาทางออกไม่ได้ คุณทักษิณ คุณประยุทธ์จึงบอกให้ไปเลือกตั้งเถอะทั้งทีการเลือกตั้งมันไม่ใช่จะแก้ปัญหาได้ ที่ผมเป็นห่วง ผมเป็นห่วงคุณสุเทพ มากกว่า ว่าแล้วคุณสุเทพจะเดินยังไงจากนี้ไป ผมให้คำตอบแทนคุณสุเทพ ไม่ได้ เพราะผมเคยแนะนำคุณสุเทพ ไปแล้ว บอกว่าปัญหาชาติบ้านเมืองที่มันไม่จบ เพราะคุณประยุทธ์ไม่ยอมทำงานเพื่อประชาชน แต่คุณประยุทธ์ทำงานเพื่อคุณทักษิณ คุณสุเทพก็ยังเอาใจคุณประยุทธ์อยู่เหมือนเดิม ก็เอาใจกันต่อไปก็แล้วกัน” นายสนธิกล่าว
    
       เมื่อถามถึงวิกฤตการณ์เมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน นายสนธิกล่าวว่า วิกฤตแบบนี้ฆ่ากัน ยิงกันทุกวัน มันต้องประกาศกฎอัยการศึก เมื่อวานนี้คนของ คปท.ก็เสียชีวิต แบบถูกยิงเหมือนกับยิงเผาขน ชาติมันจะอยู่อย่างนี้ได้ยังไง แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะมัวเต้นชะชะช่าเดินหน้า 3 ถอยหลัง 3 พอมีเหตุการณ์ที่ตึงเครียดก็ออกมาโวยวายทีหนึ่ง บอกเดี๋ยวจะประกาศกฎอัยการศึก พอสักพักคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณรู้เรื่องก็ถอยหลังอีก 3 ก้าว ก็คืออยู่กับที่ รอให้เกษียณอายุก็จะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เอาเงินเอาทองไปใช้มีความสุข
    
       ส่วนเรื่องการปฏิรูปของ กปปส.นั้น นายสนธิกล่าวว่า ตนไม่ขอออกความเห็น แต่จะบอกว่าการปฏิรูปนั้นไม่ใช่แค่เอานักวิชาการมานั่งคุยกัน ร้อยพ่อพันแม่ ร้อยสำนัก มีความฝัน มีอุดมการณ์ที่ไม่เหมือนกัน การปฏิรูปมันต้องเริ่มจากคนไม่กี่คนแล้วเสนอหลักการ แล้วใช้หลักการขยายออกไป ดัดแปลงแก้ไข ไม่ใช่เอะอะก็เอาคนมาร่วมชุมนุมกัน
    
       เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 5 เม.ย.นี้ นายสนธิกล่าวว่า ตนไม่ห่วง แต่ก็พยายามให้มันสงบแล้วกัน ตนคิดว่าคนที่ก่อเรื่องมาโดยตลอดคือฝ่ายพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้ความรุนแรงมาตลอด กปปส., คปท.ไม่เคยใช้ความรุนแรง เพียงแต่ช่วงหลังอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องป้องกันตัว คนที่ใช้ความรุนแรงที่ตั้งกองกำลัง ฝ่ายเสื้อแดง ฝ่ายเพื่อไทยทั้งนั้น
    
       เมื่อถามถึงทางออกของสถานการณ์ นายสนธิกล่าวว่า “คุณไปถามคุณประยุทธ์สิ”









ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก

ขอบคุณ อจ.ประพจน์
ท่ีส่งเนื้อความนี้มาแชร์
คล้ายมีทิศทางเดียวกับเนื้อความนี้:
"ถาม...ทำไมวงจรอุบาทว์อาจหมุนกลับมาได้อีก"
"คำตอบอยู่ข้างล่างนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง"
๑. ตระกูลชิน ยึดองคาพยพ รัฐวิสาหกิจเบ็ดเสร็จ ขุมสมบัติหลาย แสนล้านของชาติ ได้ถูกแบ่งขายครั้งแรกในน้ำมือรัฐบาลพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ ปตท.
และหากมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ไม...่ร้องต่อศาลปกครอง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ" เตรียมขาย กฟผ. "
จนศาลปกครองสูงสุด
มีคำพิพากษา........
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2549
ให้เพิกถอนพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจสิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548
และหากพี่ชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ในอำนาจป่านนี้สมบัติชาติคงถูกขายกินหมดแล้ว
๒. กระนั้นก็ตาม เมื่อมาถึงยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์เรืองอำนาจ ก็เข้ามาทำพฤติกรรมเดิมๆ สูบกินรัฐวิสาหกิจอีกครั้งภายใต้ระบบโครงสร้างความเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก็ได้ค่าเบี้ยประชุม โบนัส และเงินตอบแทน ตลอดจนการจัดซื้อจัดจ้าง จากงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ ที่ระดับและอำนาจการตรวจสอบจะอ่อนด้อยกว่่า กระทรวง กรมต่างๆ ซ้ำร้ายกว่านั้น
รัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปเป็นเอกชน ผลตอบแทนกรรมการ ตลอดจนการตรวจสอบจากรัฐในการบริหารงบลงทุนต่างๆ และการสนองตอบนโยบายสาธารณะ ก็ยิ่งน้อยลง
ยกตัวอย่าง ปตท.ที่แปรรูปไป ยังเล่นแร่แปรธาตุดูดกินด้วย การถ่ายโอนผลประโยชน์ ทรัพย์สิน
การลงทุนผ่านบริษัทลูกปตท. ที่อยู่นอกเขตการตรวจสอบภายใต้อำนาจรัฐออกไปเรื่อยๆ เงินไหลออกไป บริษัทลูก ทำให้บริษัทแม่ผลประกอบการไม่ดี
แต่การตรวจสอบบริษัทลูกหรือบริษัทที่ ปตท.ร่วมทุน กลับยิ่งยากขึ้น และมาวันนี้ ยุคน้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน
แต่คราวนี้ขยายวงกว้างกว่ามาก เกือบจะทุกรัฐวิสาหกิจ
ทั้งด้านพลังงานสาธารณูปโภคและธนาคาร ที่เริ่มด้วย
(1) การตั้งคนในธุรกิจตนเองมาเป็นกรรมการหวังกระทำบางอย่างหรือไม่ นอกจากนี้ยังต่างตอบแทนผู้ภักดีกล้าหาญด้วย
(2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับ_กรรมการและพนักงาน
รัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....ให้คุณสมบัติต่ำลงและมีการเปิดช่องให้ผู้มาดำรงตำแหน่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนได้ แล้วแต่ รมว.คลัง จะพิจารณายกเว้น และ
(3) การรวบเอาที่ดินของรัฐวิสาหกิจมาจัดสรรเองใหม่ พร้อมหลักฐานการจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดย
(1) ตั้งคนใกล้ชิดเป็นกรรมการเกรดเอ รายชื่อต่อไปนี้ (อย่าได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ธุรกิจครอบครัวชินวัตร)
- การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีพล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ พี่ชายต่างมารดาของคุณหญิง
พจมาน ชินวัตร เป็นกรรมการและมีน้องรักพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างพล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นประธานกรรมการ
- การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ตั้งนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล รองกก.ผู้อำนวยการบริษัท ไทยคม จำกัด(มหาชน) และนายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ทนายความพ.ต.ท. ทักษิณ เป็นกรรมการไปคุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ก็ตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการตลาด บมจ.ไทยคม ธุรกิจครอบครัวน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานคณะกรรมการ
- บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด ขุมสมบัติอีกแห่งที่ตั้ง น.ต.ศิธา ทิวารี อดีต สส.ไทยรักไทย และเพื่อนสนิทพานทองแท้ ไปเป็นประธานกรรมการ ส่วนนายธานินทร์ อังสุวรังษี กรรมการอิสระ มาจากผู้บริหารบริษัทแคปปิตอลโอเค และบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องธุรกิจครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์และยังได้เป็น กก.ผู้จัดการ ธนาคารอิสลามฯ ก่อนจะมีคดี แล้วต้องเปลี่ยนตัวไม่นานนี้
- นอกจากนี้ยังตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อัยการอาวุโสเป็นกรรมการ แต่พอไปดู เหตุใดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงใจป้ำตั้งนายธนพิชญ์ เป็น กรรมการรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ได้แก่
บ.ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน),
บ. ขนส่ง จำกัด และการท่าเรือแห่งประเทศไทย
ได้รับค่าตอบแทนรวมทั้งหมด 1,348,825.81 บาท
อัยการอาวุโสท่านนี้มีประวัติอย่างไร
เป็นอัยการที่รับผิดชอบคดีทุจริต จัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์ ที่ไม่ยอมสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพวกรวม 25 คน ในคดีซีทีเอ็กซ์
และสั่งไม่ฟ้องคดี การอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ให้ บริษัทเอกชน เช่น กลุ่มเครือกฤษดามหานคร วงเงินหลายร้อยล้านบาท
ทั้งที่คตส.และป.ป.ช.ตั้งข้อหา นี่หรือไม่คือสาเหตุ
-ขณะที่นายวัฒนา เตียงกูล ทนายความพรรคเพื่อไทย ก็เปลี่ยนเป็นมารับเงินเดือนในบอร์ดทอท. แทน
- ในขณะที่ปตท.นอกจากจะตั้ง เบญจา หลุยเจริญ ที่ช่วยให้คดีขายหุ้นชินคอร์ป ไม่ต้องเสียภาษีสมัยเป็นรองอธิบดีกรมสรรพากร ก่อนไปเป็นประธานกรุงไทย และเป็น รมช.คลัง
- ก็ยังตั้ง อัยการคนเก่งอย่างนาย จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ผู้สั่งไม่ฟ้องคดีเลี่ยงภาษีของครอบครัวชินวัตร
- ในเหตุผลเดียวกัน ก็ยังพ่วงนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้เร่งดำเนินการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป็นกรรมการ
- แต่ก็ยังไม่น่าสนใจเท่าการส่งนาย วรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ฯ จำกัด (มหาชน) ลูกน้องตนเองในธุรกิจครอบครัว มานั่งกุมขุมทรัพย์ที่ปตท.
ส่วนบริษัทลูกของปตท. อย่าง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด ก็มีคำสั่งให้ นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความไทยรักไทย ไปคุม
คณะกรรมการสลากกินแบ่งรับาล นายวีรภัทร ศรีไชยา ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณในคดีเลี่ยงภาษี 1.2 หมื่นล้านบาท ของพานทองแท้ และพินทองทา ชินวัตร และเป็นทนายความพรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้ตุลาการทั้ง 8 คน เพิกถอนมติรับคำร้องและคำสั่งที่ให้รัฐสภารอการดำเนินการลงมติวาระ 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ
ตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ
- ที่น่าตะลึงพึงเพริดคือ การตั้ง พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร อดีตหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นกรรมการและผู้อำนวยการกองสลาก ถามว่า หน่วยงานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของหรือ ??
ธนาคารกรุงไทย ที่นอกจากจะตั้ง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ เป็นกรรมการแล้ว ยังตั้งลูกน้องในเครือชินคอร์ป อย่าง นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ที่ใครๆก็รู้ว่าคือ ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ที่มีอีกตำแหน่งในฐานะ กรรมการ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น
- ธนาคารออมสิน นอกจากจะตั้ง ดร.นงลักษณ์ พินัยนิติศาสตร์ ผู้บริหารระดับสูง ไทยคม อย่างที่กล่าวแล้ว ยังตั้งนายชัยธวัช เสาวพนธ์ กรรมการบริษัท วินโคสท์อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ให้ไปเป็นกรรมการออมสินเพื่อหวังทำอะไร
- องค์การเภสัชกรรมเหตุใด จึงตั้งเอานายสมชัย โกวิทเจริญกุล พี่เขยนายกฯเอง (สามี นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (ชินวัตร) กรรมการ และ ผู้ถือหุ้น บริษัท เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์
- แต่ที่น่าสนใจคือ นายสมชัย โกวิทเจริญกุล คือ ผู้ถือหุ้นในบริษัท ฮัวถอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ จากประเทศจีน
จึงน่าคิดว่าตั้งให้เข้าไปทำอะไรในองค์การเภสัชกรรม ??
- การประปานครหลวง ตั้ง นายเอกราช ช่างเหลา ที่เคยถูกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งอายัดเงิน และ การทำธุรกรรมการเงินในช่วงชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 เนื่องจากศอฉ.เชื่อว่า เป็นท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะพบเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วม 1,200 ล้านบาท
- ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค ตั้ง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำนปช.และกลุ่มคนเสื้อแดงผู้ถูกออกหมายจับในคดีก่อความวุ่นวายปี’53 ไปนั่งคุม
- นอกจากนี้ยังตั้ง นางอัมพร นิติสิริ ที่เป็นภรรยา ของ นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ไปเป็นกรรมการคุมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งหมดกระทำภายใต้อำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์เองโดยตรง ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ประธานคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.)
- และล่าสุดประธานคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ แม้จะมอบให้ใครดูแล แต่ด้วยตามกฎหมายการกำกับรัฐวิสาหกิจทุกฉบับ ก็สั่งให้มาเคาะครั้งสุดท้ายบนโต๊ะครม.ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั่งที่หัวโต๊ะ
ขณะที่ การกระทำตาม (2) การแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจฯ และ. 3) การจัดตั้งองค์กรใหม่มาจัดการเรื่อง
อสังหาริมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ นั้นจะได้กล่าวเจาะในตอนต่อไป
หมดประเทศหรือยัง..........?
เขาเป็นเจ้าของประเทศหรือ ?
คุณ.....ยินยอม.....หรือ......?
ลุกขึ้นเถิด...พี่น้องไทย....
อย่าให้....ชีวิตสูญเปล่า....
รักชาติ....แผ่นดินของเรา..
เหมือนดังพงศ์เผ่า.........
ต้นตระกูลไทย........... !
อ่านเสร็จแล้วโปรดส่งต่อเพื่อเปิดโปง ออกไปให้มากที่สุด !!!













Smatcha Jio Meechim's photo.





ลิ่วล้อทรราชย์ตัวเอ้ชักนำอเมริกาก้าวก่ายประเทศไทย




ดูหน้ากันไว้คนฉ้อฉลขายชาติ
หลอกลวงไปทั่วประเทศ
ออกสื่อช่อง 3ประจำ
โจมตี กปปส. อย่างไร้ยางอาย


นี่รูปปู่ของทักษิณนั่งกลางพร้อมย่า ส่วนพ่อทักษิณยืนข้างหลัง และ ปู่ทวดที่นังปู เขาภูมิใจหนักหนานั้น เป็นอั้งยี่ที่พยายามฆ่า ท่านผู้พิพากษาที่ตัดสินให้ปู่ทวดติดคุก ซึ่ง ท่านผู้พิพากษาในวันนั้น คือ ปู่ทวด ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรียกว่า ตามล้างเผ่าพันธ์กันตั้งแต่รุ่นทวด กันทีเดียว

FOX รายงานว่า ไทย ชนะเลิศ รางวัลความ "เลว" ปกปิดข้อมูล MH370


Post by Aidin I-Din.

คลิป Greta Van Sustereen ขอโทษคนไทย (แบบเหวี่ยงๆนะ55) ที่เคยด่าเรื่องข้อมูลเรดาห์ ทางทหาร ของเครื่อง #MH370 ว่าเมืองไทย อุบาว์ท ห่วยแตก เห็นแก่ตัว ฯลฯ...(ขอบอกว่า สลิ่มดิ้น แทบกระอักเลือด555)

- เชื่อไหมว่า มีสลิ่มบอกว่า "เรื่องในประเทศไทยก็เดือดร้อนอยู่แล้ว ไม่มีเวลาไปช่วยหรอก" จริงๆ (ในคอมเม้นคลิปก่อน) เชื่อเลย...แหะ ว่าคิดได้ไง

คลิปนี้ นางบอกว่า (แปลพลาดตรงไหน ขออภัยไว้ด้วยนะคับ) คุณเห็นพาดหัวข่าวของไทยไหม พวกเขาโกรธฉันมาก ที่ล่าสุด ฉันเรียกประเทศไทยว่า 'ห่วยแตก' แห่งวันนั้น เพราะวันที่ทั่วโลก ต่างค้นหาผู้สูญหาย 239 คน และตำแหน่งเรดาห์ ของเครื่องบิน ไฟลท์ #MH370 ในวันนั้น ประเทศไทยกลับนิ่งเฉย กว่าสิบวัน ถึงจะบอกข้อมูล แล้วนังแก้ตัวว่า ไม่มีใครถาม

ความไม่ได้เรื่องอยู่ตรงไหนนะเหรอ? มันก็ตรงที่ ทั่วโลกต่าง 'รู้ตัว' ว่าควรให้ข้อมูลอัพเดต เกี่ยวกับเรื่อง เรดาห์ของ #MH370 ตลอดเวลา ฉันก็เลยใช้คำว่า Jerks (พวกโง่,เห็นแก่ตัว) บางทีมันอาจจะเป็นเพราะระดับความแรง ของคำศัพท์ ที่ใช้ บางที เหมาะสมแล้วนะ ที่จะใช้คำนี้ออกทีวี
แล้วตอนนี้ ฉันก็กลายเป็นคนชั่ว ของไทย ฉันได้รับทั้งอีเมลล์ โทรศัพท์ออนไลน์ ฯลฯ ทั้งหมด ต่างโมโหฉัน ในอีเมลล์ ไม่ใช่แค่คอมเพลน แต่ยังบอกว่า ไม่ใช่ทุกคนในประเทศ ที่จะรู้ข้อมูล บางคนก็พูดไปถึงเรื่อง รัสเซีย ไครเมีย ไปถึงเรื่อประชากรชายแดนเป็นล้าน แต่ช่างเหอะ แต่มีหนังสือพิมพ์ค่ายหนึ่ง ที่ให้ความสนใจฉัน (bangkok post) เขาเรียกฉันว่า พวกหยาบคาบ ดิบเถื่อน และไร้อารยะธรรม และยังเขียนรายงาน ส่งถึงรัฐบาล ให้คอมเพลนฉันผ่านฟ็อกนิวส์ ซึ่งฉันอ่าดูแล้วก็คิดว่า มันก็เป็นวิธีการคลาสสิคอะแหละนะ แล้วไง เอาที่อยู่ไหมคะ? (แรว้งงง)

แต่เดี๋ยวนะ ท้ายข่าว ยังบอกไว้ว่า อย่างน้อย หากมองความมจริงในอีกด้านหนึ่ง สิ่งที่ฉันพูดและคอมเม้นท์ไป มันก็เป็นเรื่องที่ถูกทั้งนั้น
อีกอันบอกว่า ถึงฉันจะหยาบคาย ป่าเถื่อน และสุดจะก้าวร้าว แต่อย่างน้อย ฉันเป็นเหมือนแสงไฟที่ส่องให้เห็นถึงความผิดพลาด

ก็โอเคนะ ใจดีจัง

ทีนี่ขอฉันพูดนะ To Thailand ดิฉันขอโทษค่ะ ที่ทำให้พวกคุณคุ้มคลั่ง และขอโทษ ที่ดูถูกดูแคลนพวกคุณ











FOX รายงานว่า ไทย ชนะเลิส รางวัลความ "เลว" ปกปิดข้อมูล MH370
....นักข่าวหญิง Greta Van Susteren พูดออกทีวีว่าประเทศไทยนั้นสมควรได้รับรางวัล และรางวัลคือ " ‪#‎ปร...ะเทศที่ห่วยที่สุดของตอนนี้‬ ชนิดที่ว่าสถานการณ์ไครเมียที่ว่าแย่จนทำให้รัสเซียดูห่วยแล้วยังสู้ไทยไม่ได้เลย ไม่เคยคิดมาก่อนว่าไทยจะอุบาทว์ และใจร้ายที่สุด ทำไมนะหรือ ก็เพราะทั่วโลกต่างวุ่นวายกับการหาร่างผู้สูญหาย แต่ไทยกลับใช้ก้นนั่งทับข้อมูลสำคัญที่บอกว่ารู้พิกัดของเครื่องบิน กินเวลาเกิน 10 วัน ก็ไม่แคร์จะบอกใครเลย ทำไมนะหรือ เพราะไทยคือ"Jerks" ( พวกเห็นแก่ตัว ) และข้ออ้างที่ทหารออกมาพูดก็แสนทุเรศน่าสมเพช ที่บอกว่าไม่มีใครถามนี่.. น่าเสียดายนะ แต่นี่มันน่าสมเพชจริงๆ ไทยจำได้ไหมนี่คือประเทศที่หลายๆประเทศทั่วโลกยื่นมือเข้าช่วยเหลือตอนสึนามิ ในปี 2004"
ยอมรับเลยว่าคำพูดของเธอเสียดแทงหัวใจคนไทยอย่างเจ็บแสบจริงๆ


อย่าแหย่รังแตน




แดงเตรียมแห่ศพ ตู่,เต้น..!!!
เมื่อกระแสแดงทั้งแผ่นดินปลุกไม่ขึ้น ท่านแม้ว ดูไบ จึงยอมให้พวกซ้ายจัดขึ้นมาคุมเกมส์ แผนการสร้างมิคสัญญีกลียุคก็เริ่มขึ้น
พวกซ้ายจัด"มโน"ถึง
"การปฏิวัติฝรั่งเศส 1789"
"การปฏิวัติรัสเซีย 1917 ของบอลเชวิก"...
"การปฏิวัติจีน 1911 ของ ดร.ซุน"
"การปฏิวัติจีน 1949 ของเหมา"
ทุกครั้ง ล้วนแต่ต้องใช้ความรุนแรงเป็นเชื้อไฟในการปฏิวัติทั้งสิ้น
-กองกำลัง 800 กว่าคนของโป๊ะ
-กองกำลัง 300 กว่าคนของดำน้องชายของญาติดองท่านแม้ว ดูไบ
-กองกำลัง 50 กว่าคน ลูกน้องเก่าของเสธ.แดง
ทุกกลุ่มถูกเรียกเข้าประจำฐานในพื้นที่รอบๆกรุงเทพฯ เตรียมปฏิบัติการสร้างสถานการณ์มิคสัญญีกลียุค ตามวันเวลาที่นัดหมาย ภารกิจนี้เพื่อผลักดันให้เกิดการลุกขึ้นสู้ครั้งสุดท้าย เหตุกระแสแดงจุดไม่ติด พวกซ้ายจัดสรุปว่า"กระแสแดงยังไม่ขึ้นสู่กระแสสูง" โดยแบ่งเป็น 3 ภารกิจ
1.ปลุกเสื้อแดงให้ลุกขึ้นสู้กับฝ่ายตรงข้าม โดย
1.1 ยกระดับการทำร้ายและก่อวินาศกรรมต่อแกนนำแดง นักวิชาการแดง แล้วให้สื่อในเครือข่ายสร้างกระแสแล้วโยนความผิดให้อำมาตย์ว่าสั่งทหารและ กปปส.ทำร้ายคนเสื้อแดง
1.2 เพิ่มความเข้มข้นในการทำร้าย ทำลาย ก่อวินาศกรรมต่อ คณะกรรมการ ปปช.และแกนนำของ กปปส. ทั้งเป้าหมายตัวบุคคลและสถานที่
2.สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับฝ่ายศัตรูของระบอบทักษิณ โดยให้ทีมชายชุดดำลงมือทำร้ายผู้จัดรายการคนสำคัญของ ASTV คาดการณ์ว่าเป้าหมายน่าจะเป็นลูกชายของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เพื่อโยนความผิดว่าฝ่ายทหาร หรือ กปปส.เป็นคนทำ ตามยุทธวิธีแบ่งแยกมวลชนฝ่ายศัตรู
3.ข่มขู่ให้กองทัพ และบุคคลระดับสูงกลัว แล้วยอมเจรจากับท่านแม้ว ดูไบ โดย
3.1 ก่อวินาศกรรมในภาคเหนือ พื้นที่เป้าหมาย เชียงใหม่ และ พิษณุโลก เพื่อ"ตบหน้า"แม่ทัพภาคที่ 3 น้องชายของพลเอกประยุทธ์
3.2 เตรียมทำคาร์บอม(เหมือนกรณีซอยแจ้งวัฒนะ 13)ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เป้าหมายเพื่อส่งสัญญานไปยังสากลว่า เหนือและอีสาน คือพื้นที่"ปลดปล่อย" โดยให้แดงอิสระในจังหวัดต่างๆเป็นคนทำ
ส่วนการเคลื่อนขบวนของแดง นปช.ให้การ์ดของแรมโบ้และ ส.รับรอง ทำหน้าที่คุ้มกันม็อบ
สายลับยืนยันว่าที่ประชุมของพวกซ้ายจัดเห็นชอบว่า เมื่อถึงวันเวลานัดหมาย อารมณ์ของมวลชนพร้อม ให้ลงมือเด็ดชีพแกนนำแดง โดยวิธีการ"เป่าสมอง"เหมือนที่ทำกับเสธ.แดง ที่ต้องทำเพราะจำเป็นต้องทำ..!!! แล้วโยนความผิดให้อำมาตย์ว่าสั่งทหารฆ่าแกนนำแดง เพื่อสร้างความโกรธแค้นให้มวลชนเสื้อแดง
สุดท้ายจึงอยากจะฝากไปถึงแกนนำแดงทั้งหลายว่า อะไรที่ยังไม่ได้ทำ ให้รีบทำเสีย อาหารอะไรที่อร่อย ที่ชอบ ก็ให้รีบกินเสีย ไม่ต้องรอให้เขาทำบุญไปให้ และผมขออโหสิกรรมในเรื่องที่แล้วๆมาด้วย
ไทกร พลสุวรรณ
See More




26 มี.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย กตัญญุตานันท์ หรือ “ชัย ราชวัตร” การ์ตูนนิสต์การเมืองชื่อดังของประเทศไทย ที่รู้จักกันดีในคอลัมน์ “ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน” มี ผู้ใหญ่มา และ ไอ้จ่อย เป็นตัวละครการ์ตูนประจำ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเพจที่ชื่อ “Chai Rachawat” แสดงความรู้สึกต่อกรณีคลิปกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่เรียกตัวเองว่า “กวป.” ทั้งผู้หญิงผู้ชายรุมทำร้ายพระภิกษุสงฆ์ที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช.เ...มื่อวันจันทร์ที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า บ้านเมืองไร้ขื่อแป เหตุอยู่ในรัฐที่ยึดหลัก "นิติสัตว์"

“ชัย ราชวัตร” โพสต์ข้อความสั้นๆ เพียงว่า พุทธศาสนิกชนที่เห็นคนใจสัตว์รุมทำร้ายพระสงฆ์คงรู้สึกปวดร้าวแสนสาหัส คงต้องปวดร้าวแสนสาหัสต่อไป เพราะจะเอากฎหมายไปจัดการกับส่ำสัตว์ฝูงนี้ไม่ได้ต้องดูที่เจตนาของส่ำสัตว์ก่อนนะครับ อย่าลืมว่าเราอยู่ในรัฐที่ปกครองด้วยหลักนิติสัตว์







By Michael Yon
Bangkok with Red Shirts vs PDRC and allies
กรุงเทพฯที่มีเสื้อแดง เปรียบเทียบกับ ที่มี กปปส.และพันธมิตรของกปปส.

ผมถ่ายภาพแรกเมื่อปี 53 ตอนที่เสื้อแดงเผาตึก 37 แห่งและสังหารผู้คนจำนวนมากจนกระทั่งกองทัพเข้ามาปราบปรามพวกเค้า

ผมถ่ายภาพที่สองวันนี้ จากตำแหน่งเดียวกัน พิจารณาดู: กปปส., คปท.,สันติอโศก และ ท่านพุทธอิสระไม่ได้ยิงกรุงเทพฯหรือพยายามที่จะเผากรุงเทพฯให้วอดวาย

I made the first image in 2010 when the Red Shirts burned 37 buildings and killed many people until the Army finally put them down.

I made the second image today from the same location. Check it out: PDRC, KPT, Santi Asoke, and Buddha Issara are not shooting up Bangkok or trying to burn it down.






อ้างรองผู้ว่าฯ อำนาจเจริญคนใหม่ โพสต์ซ้ำในไลน์หัวหน้าส่วนราชการ ข้อความอัด “แม้ว-เสื้อแดง” ไม่สำนึกอยู่ในประเทศไทย ชี้ไม่มีใครในบ้านเมืองนี้โหดร้าย แต่ตัวเองโหดร้ายกับบ้านเมือง วอนอย่าโหดร้ายนักเลย

วันนี้ (26 มี.ค.) มีการเผยแพร่ข้อความ ที่ระบุว่าเป็นข้อความในแอปพลิเคชันไลน์สำหรับหัวหน้าส่วนราชการ ใน จ.อำนาจเจริญ ของรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญคนใหม่ ที่ได้โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 23 ...มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนำเอาข้อเขียนของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Paul McIntosh มาโพตส์ซ้ำมีข้อความพาดหัวว่า “ถึงคุณทักษิณ .. ที่ผมเคยเคารพรัก” ขณะที่เนื้อหาเป็นการต่อว่าคนเสื้อแดง และอดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องความจงรักภักดี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญคนใหม่ คือ นายบุญยืน คำหงส์ ที่เพิ่งได้รับคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นคำสั่งมหาดไทยที่ 684/2556 จำนวน 28 ราย โดยมีชื่อนายบุญยืน ย้ายจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร มาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ โดย นายบุญยืน เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา

ขณะที่ไลน์สำหรับหัวหน้าส่วนราชการ ในหลายจังหวัด หรือหลายส่วนราชการ นิยมใช้เพื่อความสะดวกในการพูดคุยเรื่องานภายในจังหวัด ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดอำเภอ หรือนายอำเภอ ในสังกัดกรมการปกครอง ซึ่งในกระทรวงมหาดไทย นิยมใช้อย่างมาก

โดยข้อความ ที่ผู้ที่ใช้ชื่อว่า Paul McIntosh โพสต์ไว้ดังกล่าว ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ และในแฟนเพจฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหลายแห่ง สำหรับข้อความดังกล่าว มีใจความว่า ดังนี้

“Paul McIntosh (คนเคยรักทักษิณและเลิกรักแล้ว)

ถึงคุณทักษิณ .. ที่ผมเคยเคารพรัก

ผมได้เฝ้าดูการปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงของคุณ และบริวารมาตลอดหลายปี คุณเลือดเย็นมากที่กล่าวโจมตีอำมาตย์ และทำให้มวลชนของคุณพุ่งเป้าเข้าใจไปว่า อำมาตย์อายุ 80 กว่าๆ ของคุณนั้นก็คือในหลวง ... ผมขอยืนยันว่าสิ่งที่คุณกล่าวทุกวันนี้ก็ยังว่อนอยู่ในยูทิวบ์ ฉะนั้น อย่าบอกว่าไม่ได้พูด มันทุเรศ...

ส่วนการที่คุณได้รับการสมรสพระราชทานนั้น ก็เพราะคุณทำเรื่องขอพระราชทาน และได้รับพระกรุณาธิคุณ ... ไม่ว่าจะเป็นการไปเปิดสถานีดาวเทียม การตั้งชื่อพระราชทานแก่ดาวเทียมของคุณ ก็เป็นเพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ต่อมาคุณยังกล้าที่จะใช้บริษัทนั้น หากินโดยทุจริต และยังกล้าขายดาวเทียมที่พระองค์พระราชทานชื่อให้แก่ต่างชาติอีกด้วย... คุณชั่วช้ามาก

ส่วนเรื่องเครื่องราชต่างๆ ที่คุณและเมียได้รับนั้น คุณคงลืมไป ว่าพระองค์มิได้พระราชทานให้เอง แต่เป็นเพราะทุกคนที่ได้รับ ต่างทำเรื่องขึ้นไปขอพระราชทานทั้งสิ้น...

ได้โปรดอย่ากล่าวอ้างว่าคุณถวายงานรับใช้ เพราะคุณทำในฐานะนายกรัฐมนตรี ใครมานั่งตำแหน่งนี้ก็ต้องทำ... อย่าได้มาพูดในเชิงเอาบุญคุณเช่นนี้

อย่ามากล่าวหาผม และคนไทยหลายสิบล้านคน ที่เชื่อว่าคุณต้องการล้มล้างสถาบันและยึดประเทศ รวมถึงทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ว่าเชื่อในสิ่งนี้เพราะคุณถูกใส่ร้าย

ถ้าจะมีใครใส่ร้าย ก็คงจะมีแต่คุณเอง เพราะผมตัดสินความเชื่อนี้จากคลิปคำพูดของคุณ จากพฤติกรรมจาบจ้วงของบริวารของคุณ รวมถึงการปกป้องไม่ดำเนินคดีกับผู้จาบจ้วงที่อยู่ในปีกของพวกคุณ

ไม่มีใครในบ้านเมืองนี้โหดร้ายกับคุณ ตรงกันข้ามเป็นคุณเองที่โหดร้ายกับบ้านเมืองนี้สารพัด

คุณอยู่ต่างประเทศมาแล้วเจ็ดปีโดยที่ไม่เห็นมีใครห้ามไม่ให้คุณกลับมา... แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็ขอภาวนาให้คุณได้อยู่ที่นั่น ตลอดอายุขัยของคุณ เพราะคนอย่างคุณนั้น แม้เก็บอัฐิอังคารของคุณมาโปรยในทะเลอ่าวไทย ก็ยังหนักเกินไปสำหรับประเทศนี้

คุณขอความกรุณาว่า

อย่าโหดร้ายกับคุณนักเลย

ผมต่างหาก ที่อยากจะขอความกรุณาจากคุณว่า

อย่าโหดร้ายกับประเทศไทยนักเลย

ด้วยความขมขื่น กับสิ่งที่คุณทำกับประเทศไทย และสถาบันฯ

23/3/57”

สำหรับ นายบุญยืน นั้น จบการศึกษา บัญชีบัณฑิต (บช.บ.) วิทยาลัยการค้า ปี 2520 นิติศาสตรบัณฑิต (น.บ.) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2547 ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ปี 2542 เข้ารับราชการ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2521 ในตำแหน่ง เสมียนตราอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ก่อนไต่เต้าในหลายๆ ตำแหน่ง เช่น ปลัดอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เสมียนตราจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน จังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้างานงบประมาณ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน จังหวัดนครปฐม หัวหน้าฝ่ายงบประมาณ และหัวหน้าฝ่ายการเงิน กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพิจิตร, ปทุมธานี, มหาสารคาม, นครราชสีมา และมุกดาหาร ก่อนจะมีตำแหน่งสูงสุดเป็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2555 และย้ายมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญในปัจจุบัน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2557 18:12 น
See More









หลังจากเห็นภาพและคลิปของเหล่าบรรดา แดงสถุนทั้งตัวผู้ตัวเมีย ที่เข้ากลุ้มรุมไล่เตะ.ไล่กระทืบ พระสงฆ์องค์เจ้า แบบที่ฝรั่งเห็นยังตาค้าง “โอ้มายก๊อด” สับสนว่าตนอยู่ในประเทศไหน พร้อม ๆ กับสายตาคนไทยในละแวกนั้นอีกนับหลายสิบคู่ ที่ดูแล้วรู้สึดหดหู่อย่างไม่เคยพบเห็นว่าจะเกิดในแผ่นดินธรรมที่นายกดอกไม้แดง

เธอคนนี้เคยหาญกล้าที่ประกาศจะสังคายนาพระไตรปิกฎของพระพุทธองค์!!! และจะทำให้เมืองไทยเป็น ศูนย์กลางพุทธ...ศาสนาโลก เมื่อครั้งหาเสียงไว้ที่เชียงใหม่

ก็ไม่รู้ว่า กระบวนการไล่กระทืบพระกลางถนนแบบนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนในการเตรียมสังคายนาอย่างที่เธอประกาศไว้จริง ๆ หรือไม่

พระรูปนี้ โชคดีที่มีตำรวจนอกเครื่องแบบ..ที่ค่อย ๆ เข้าไปช่วยห้ามและกันออกตัวออกมา(อย่างเสียไม่ได้) ซึ่งหาไม่แล้วป่านนี้หลวงพี่รูปนั้นจะมีสภาพสะบักสะบอมหรือต้องถึงขนาด มรณานุสติกองอยู่กลางถนนหรืออย่างไรคงไม่ต้องคาดเดากัน

เราเคยเห็นพระเณร..ท่านนอนจมกองเลือด เพราะถูกโจรใจบาปฆ่าทิ้งเสียหลายรูปที่สามจังหวัดใต้ ..ภาพเหล่านั้นหดหู่จนคนไทยพุทธ ไม่เว้นแม้คนต่างศาสนิกอย่างมุสลิมในพื้นที่และทั่วประเทศร่วมกันสาปแช่งคนกระทำว่ายังมีความเป็นผู้เป็นคนอยู่อีกหรือที่กระทำต่อนักบวชได้ลงคอ ..

แต่ พ.ศ. นี้ ต้องบอกว่า คนไทยบางกลุ่มได้ถูกล้างสมองและยัดใส่ชุดความคิดเลว ๆ ไว้ด้วยระบอบทักษิณ ได้ก้าวมาไกลเกินจะมีสติแยกแยะดีชั่วได้ด้วยตัวเองแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะต้องเห็นภาพอย่างที่เห็นนี้อีกไม่น้อยจากนี้

จั่วเรื่องนี้ด้วยอาการปลงสังเวช..และเริ่มเข้าใจในสภาวะธรรมที่ว่า สรรพสังขาราอนิจจาจริง ๆ ....เพราะขนาดยังไม่ทันเที่ยงก็อาจเดี้ยงได้ทุกคนไม่เว้นพระเถรเณรชี

ข้ามมาเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องกล่าวคือ...วันนี้มีรายงานข่าวจากการประชุม ครม. สรุปว่าที่ประชุมมีมติคืนตำแหน่งให้คุณถวิล เปลี่ยนศรีเป็นที่เรียบร้อย โดยหลังจากนี้ก็จะมีการนำเรื่องแจ้งไปยัง กกต.เพื่อทำการตรวจสอบ ก่อนจะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป โดยพลโท.ภราดร นั้นก็ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำแทน

ซึ่งอย่างช้าเมษายนนี้คุณถวิลก็คงได้มีโอกาสได้เข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มที่และด้วยความเป็นมืออาชีพโดยยึดเอาความมั่นคงของรัฐมิใช่รัฐบาลเถื่อนเป็นตัวตั้งและการบริหารแบบประสานกันกับหลายฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงของทหารนั้นคงดำเนินไปด้วยความเข้มข้นและสอดคล้องกับตัวบทกฎหมายโดยไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าเหลี่ยมอีกต่อไป..

จะว่าไป เดือนเมษายนนี้ก็น่าจะเป็นเดือนที่ต้องบอกว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศ ว่าประเทศชาติจะสามารถฝันฝ่าวังวนแห่งความมืดดำที่เข้าครอบคลุมเมืองไทยมานานนับสิบปีได้หรือไม่

ที่บอกว่าน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนก็เพราะหลากหลายปัจจัยที่กำลังส่อแววว่า น่าจะถึงจุดแตกหัก(กันเสียที) หลังจากที่ เหล่า นปช.ลั่นกลองรบเพื่อนายแล้ว เที่ยวนี้ก็มีการเปลี่ยนหัวขบวนใหม่ ..โดยเปลี่ยนจาก สัตว์ปีกอย่าง “นกแสก” ลงมาใช้บริการพวกครึ่งบกครึ่งน้ำอย่าง “คางคก” นั่นหมายถึงกระบวนแนวรบครั้งใหม่นี้
นายใหญ่เลิกอาศัยบทบุ๋นเชื่องช้าและแบมือรับตังค์อย่างเดียวอย่างที่เธออาศัยทำกินตลอด ไมว่าจะเป็น การสร้างมวลชนแบบสไตล์คอมมิวนิสต์ อาทิ โรงเรียนแดง นั้นสุดท้ายก็พังพาบเหลือแต่คนแก่นั่งเฝ้าโรงเรียนไม่กี่คน

เที่ยวนี้ขาใหญ่ดูไบ..คงเห็นแล้วว่า ขืนปล่อยให้เธอเก็บกินไปเรื่อย..แต่รัฐบาลยิ่งเข้าตาจนเข้าทุกที เพราะทั้งสารพันองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ก็ปล่อยอาวุธแบบถูกกฎหมายประเคนเข้าใส่ ท่านนายกดอกไม้ จนซวนเซ จะไปไม่ไปแหล่ แถมกลุ่มก๊วนแดงกลับมีแต่แผ่วลงอย่างน่าใจหาย

การเปลี่ยนหัวขบวนแดง..จึงหมายมั่นจะปั้นสารพันข้อหาและสร้างปีศาจสงครามตัวโตให้เกิดขึ้นในเมืองไทย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่คือ การทำให้ประเทศไทย กลายเป็น “รัฐที่ล้มเหลว” ให้ได้

เมื่อพูดถึง “รัฐที่ล้มเหลว” หรือฝรั่งเรียก “Failed State” นั้น ถ้าฟังเผิน ๆ คนไทยอาจฟังแล้วขำเพลินว่า “เฮ้ย..นี่ไทยแลนด์นะเฟ้ย ไม่ใช่โซมาเลีย”

แน่ละ..หลายคนอาจเชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้..ซึ่งก็น่าจะเห็นตามนั้นหากประเทศไทยมีรัฐบาลที่มีความรักและหวงแหนชาติมากกว่าทรัพย์สมบัติตัวเอง..และทำหน้าที่ทุกอย่างไปตามครรลองที่มันควรจะเป็นภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเสมอภาค

แต่ภายใต้เงื่อนไขสำคัญที่ว่าหากแม้นตัวรัฐบาลนี่ละที่กำลังวางแผนที่จะนำพาประเทศตัวเองให้กลายรัฐที่ล้มเหลวด้วยตัวเองล่ะ..มันมีความเป็นไปได้เพียงใด?? ซึ่งถ้ามันเป็นเช่นนั้น เหตุผลอย่างหลังนี่ฟังแล้วอาจขำไม่ออก....และแทบไม่อยากนึกภาพ

เมื่อพิจารณาถึงองค์ประกอบความเป็นรัฐที่ล้มเหลวภายใต้สากลนิยมนั้น นิยามกว้าง ๆ ของรัฐล้มเหลว มีนักวิชาการอรรถาว่า หมายถึง “ รัฐที่ไม่สามารถบริหารการปกครองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถดำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยภายใน มีความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมอย่างรุนแรง มีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อย รัฐบาลและกลไกรัฐขาดความมั่นคงและประสิทธิภาพ จนไม่สามารถบริหารประเทศและแก้ปัญหาต่างๆ ให้ประสบผลสำเร็จได้”

อ่านแล้วพอนึกภาพเห็นมั้ยว่า..เราพอจะมีเค้าลางบ้างหรือไม่ และถ้ายังไม่ชัด เค้าก็ให้พิจารณาดัชนีที่พอจะชี้วัดได้ว่าใกล้เคียงหรือไม่เอาแค่ดัชนีทางการเมืองหลัก ๆ อาทิ

- การปกครองของรัฐที่ไร้ความเป็นธรรม
- ความเสื่อมถอยของการให้บริการสาธารณะ
- การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่แพร่หลาย
- การใช้เครื่องมือที่ใช้รักษาความมั่นคง ที่เรียกว่า ‘State within a state’: เป็นลักษณะการปรากฏตัวของกลุ่มอำนาจสูงสุดของรัฐ โดยอาศัยการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่คุกคามฝ่ายตรงข้าม หรือพลเรือนที่มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐ หรือมีความเห็นที่สนับสนุนกลุ่มตรงข้ามรัฐ เปรียบกับการสร้าง “กลุ่มกองกำลังภายในกองกำลังเดียวกัน” เพื่อรับใช้แสวงหาผลประโยชน์ให้กับกองทัพหรือกลุ่มการเมือง ซึ่งในที่สุดจะก่อให้เกิดกลุ่มต่อต้านทั้งในรูปของทหารพลเรือน กองโจร กองกำลังเอกชนติดอาวุธ หรือการใช้ปฏิบัติการต่างๆ ที่ทำให้ความรุนแรงแผ่ขยายออกไป เพื่อต่อต้านกับกองกำลังของรัฐ
-การก่อตัวของกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิด,การแทรกแซงกิจการภายในจากรัฐอื่น หรือปัจจัยภายนอก

ข้างต้นเป็นเพียงดัชนีทางการเมือง ซึ่งไม่นับด้านเศรษฐกิจที่กำลังเละเทะ..ด้านสังคมที่มีการคอร์รับชั่นชั่นทุจริตกันอย่างรุนแรงทุกภาคส่วน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นดัชนีสากลที่จะถือว่าประเทศนั้นกำลังเข้าสู่สภาวะของ รัฐที่ล้มเหลว

กระบวนการสร้างกองกำลังซ้อนกองกำลังของรัฐ จากกรณีของตำรวจแดงแฝงตัวในตำรวจหลัก โดยตำรวจหลักกลับแสดงบทเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เมื่อครั้งคุณสุทินถูกยิงเสียชีวิตที่วัดศรีเอี่ยม และอีกหลายครั้ง จนล่าสุดอย่างกรณีที่พระถูกไล่กระทืบซึ่งในกลุ่มม๊อบนั้นก็มีตำรวจยืนดูอยู่ใกล้ๆ และบางคนออกอาการยิ้มเยาะอย่างสะใจ ฯลฯ เหล่านี้คือสัญญานที่กำลังจะบ่งว่า ..เราอาจไปถึงจุดนั้นในไม่ช้า

การประกาศสร้างกองกำลังเอกชนติดอาวุธมาสู้กับรัฐบาลของเหล่า นปช.ลั่นกลองรบ, การไม่สนใจกระบวนการยุติธรรมหรือคำตัดสินของศาลหรือองค์กรตามกฎหมายใด ของกลุ่มก๊วนรัฐบาลรวมทั้งตัวนางดอกไม้เอง หรืออย่างล่าสุดที่จนวันนี้ จดหมายที่ส่งไปเชิญนายบันคีมุนให้เข้ามาจุ้นในกิจการภายในของประเทศตัวเองของ นายปึ้ง ซึ่งมีหลายคนเรียกร้องให้เปิดเผยเนื้อหาในจดหมายที่สร้างความเสื่อมเกียรติภูมิของชาติออกมาให้สาธารณะรับรู้ ฯลฯ

เรื่องเหล่านี้มิใช่เป็นเหตุบังเอิญ แต่เป็นกระบวนการที่มีการเตรียมการไว้อย่างแยบยลและน่ากังวลยิ่ง
ยุทธศาสตร์ โลกล้อมประเทศ..แบ่งงานกันทำเป็นทีม ส่วนหนึ่งมุ่งทำลายความมั่นคงทางจิตใจและศรัทธา โดยการมุ่งโจมตีสถาบันสูงสุดอย่างไม่ลดละ ส่วนหนึ่งใช้เงินสกปรกจ้างฝรั่งหัวขาวหัวดำออกข่าวสร้างภาพทำลายประเทศตัวเอง โดยมีไส้ศึกในในกระทรวงต่างประเทศไทยเป็นหัวโจกประสานงาน

และเมื่อทุกอย่างลงตัว..การประกาศศึก ด้วยการเอาใช้คนเสื้อแดงผู้น่าสงสารกลับมาเป็นเหยื่ออีกครั้งแบบที่เคยทำ และทำให้ “ความตาย” ของคนเสื้อแดง กลายเป็นชนวนและเป็นประเด็นนำไปสู่การลุกฮือขึ้นเผาและทำลายให้ประเทศกลายเป็นจุลทุกหนแห่ง เพื่อให้เป็น “รัฐที่ล่มสลาย” ครบองค์ประกอบที่จะให้ ต่างชาติเข้ามาบริหารจัดการประเทศไทย นี่คือ แผนสุดท้ายในชีวิตของขาใหญ่ดูไบที่มิอาจมีหนทางอื่นที่จะสามารถทำให้ตัวเองกลับมามีที่ยืนอยู่ในฐานะเดิมได้


ทว่าเรื่องเหล่านี้..ใช่ว่าฝ่ายกองทัพจะไม่รู้เล่ห์ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่การดำรงคงไว้ของเหล่าบังเกอร์ดอกไม้สวย ๆ ของทหารไทยยังคงถูกตรึงไว้ไม่ยอมถอนออกให้เสียเหลี่ยม เพราะทหารรู้ดีว่า..จากนี้ไป งานใหญ่กำลังจะมาในไม่ช้า

เพราะหลังจากที่แสดงอาการไม่กล้าขยับของเหล่า ผบ.ทัพ โดยเฉพาะผบ.ประยุทธ์ ที่กำลังตกที่นั่งเครียดหนัก เพราะจากอายุราชการที่เหลืออีกไม่กี่เดือนกับความพยายามประคับประคองสถานการณ์เพื่อมิให้ต้องกลายเป็น “เป้าหมาย” จากทุกฝ่ายที่จะให้ออกมาแสดงทีท่าชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรกับสถานการณ์บ้านเมือง

แม้นจะยากที่จะต้องกลืนน้ำลายออกมาบอกว่า “เป็นกลาง” และ “อยู่ฝ่ายประเทศชาติ” ซ้ำ ๆ ซากๆ ก็คาดเดาได้ว่าในที่สุดจากนี้เมื่อสถานการณ์งวดเข้ามาและประกาศหน้าประกาศตาของ “ฝ่ายดี” และ “ฝ่ายชั่ว” กันชัดมากขึ้นก็หวังว่าจะได้เห็น “ทหาร” จะได้เปิดหน้าชกและทำหน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจนแบบที่ องค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็น ปปช, หรือศาลรัฐธรรมนูญท่านได้ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างชัดเจนและสมบูรณ์เป็นแบบอย่างแล้วเสียที

และเพื่อตอกย้ำให้ทหารทุกนายได้เข้าใจว่า “หน้าที่” ของตนนั้นมีขอบเขตเพียงใด และใครคือ “ผู้บังคับบัญชา” ที่แท้จริง จึงต้องบอกกล่าวสำทับกันให้เข้าใจว่า

“ทหาร” มีหน้าที่ต้องกระทำภาระกิจให้กับ “รัฐ” ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พร้อม ๆ กับเป็น “ผู้ใต้บังคับบัญชา” ของฝ่ายการเมืองที่ปฎิบัติตามกฏหมายภายใต้่กฎหมายลูกอื่น ๆ ที่บัญญัติไว้รองลงมา

ดังนั้นภารกิจสำคัญอันดับแรกที่แม้นจะมีหรือไร้รัฐบาล ทว่าทหารยังต้องกระทำก็คือ การปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 77 แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ว่า “รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์เอกราชอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งเขตอํานาจรัฐและต้องจัดให้มีกําลังทหารอาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยจําเป็นและเพียงพอ เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตยความมั่นคงของรัฐสถาบันพระมหากษัตริย์ผลประโยชน์แห่งชาติและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเพื่อการพัฒนาประเทศ”

อ่านแล้วก็ชัดว่า หน้าที่ของทหารที่ขึ้นตรงกับกฎหมายมีสองอย่างคือ “พิทักษ์รักษา” และ “พัฒนาประเทศ”

พิทักษ์รักษาที่ว่าก็แยกเป็นสี่ประการคือ สถาบันพระมหากษัตริย์, เอกราชอธิปไตย,ความมั่นคงและบูรณาภาพแห่งเขตอำนาจรัฐ,ผลประโยชน์แห่งชาติ และการปกครองระบอบระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ส่วนนี้คงชัดเจนแบบไม่ต้องสาธยายว่า นิยามคำว่า ผลประโยชน์แห่งชาติ,ความมั่นคงแห่งรัฐ หมายถึงอะไร เพราะความหมายเหล่านี้ ทาง สมช. ภายใต้การดูแลของมืออาชีพอย่างคุณถวิล คงทำความเห็นมายังกองทัพได้แบบไม่ต้องถามหรือโยนไปมาว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของใคร,ตำรวจหรือไม่? ให้คนไทยต้องหงุดหงิดอารมณ์อีกต่อไป

เมื่อเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ... ก็ทำอย่างเต็มกำลัง และทำในลักษณะฝ่าย “รุก” มิใช่ “รับ” อย่างที่เป็นอยู่
การทำหน้าที่ในเชิงป้องปราม..หรือ "ตบปาก!" พวกขยะไร้ราคากันซะบ้าง...ย่อมง่ายกว่าปล่อยให้ พวกขยะมันมากจนกลายเป็นเชื้อโรคแพร่กระจายจนยากจะตามไปแก้ไข

กรณีสามจังหวัดใต้...คงเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า การไล่ตามแก้ปัญหาจากคนปากพล่อยและมีอคติในการบริหารชาติและไม่เข้าใจในความเป็นชาติพันธุ์นั้น ได้สร้างตราบาปและความสูญเสียทิ้งไว้ให้แผ่นดินเพียงใด

กรณีความวุ่นวายในเมืองหลวงที่มีสารพันอาวุธสงครามประเคนใส่กันอย่างโจ่งครึ่มวันนี้ ..ถ้าทหารไม่เปิดยุทธการปรามเชิงรุกและปล่อยให้เกิดอาการหนักข้อมากขึ้นจนลุกลาม... จะเยียวยายาก...และ ผบ.เหล่าท่าน ท่านอาจต้องเสียใจเมื่อมีทั้งอำนาจ..มีความจัดเจนแล้ว แต่กลับไม่ทำ..หรือตอนที่ควรจะทำอย่างเต็มที่กลับทำอย่างเสียไม่ได้

กรณี ข้อความใต้ฐานอนุสาวรีย์ พลเอกกฤษณ์ สีวะรา ที่สกลนครนั้น ป๋าเปรม..ท่านมิได้ส่งสัญญานอะไรที่เป็นเรื่องเลวร้ายเลย และที่สำคัญท่านไม่ได้เป็นนัยให้กองทัพทำอะไรที่มันเกินเลยอย่างที่พวกเสื้อแดงกำลังกล่าวหาอย่างที่เป็นอยู่

กลับกัน ท่านเพียงแต่ชี้และย้ำให้ทหารได้พินิจในทุกถ้อยคำนั้นว่า งดงามนัก..และน่าสนใจตรงประโยคที่ว่า “ทหารเรายืนอยู่บนเกียรติอันสูงส่ง...” นั้นมิใช่เรื่องล้อเล่น

เพราะทหารทุกนายทราบดีว่า ชีวิตของทหารนั้นแตกต่างจากปถุชน กล่าวคือ “เป็นอาชีพที่ขายชีวิต” แต่ไม่ยอมขายเกียรติและจิตวิญญาน

ดังนั้น..การจะให้ทหารวางอาวุธและเดินมุดลอดหว่างขาคนเสื้อแดงแล้วจะยอมไว้ชีวิตเมื่อครั้งที่เสื้อแดงบุกยึดไทยคมนั้น ทหารไทยกลุ่มสุดท้าย 20 นายที่ประกาศก้องว่า ถ้าให้ต้องทำเช่นนั้นให้กูตายเสียดีกว่าจะยอมวางอาวุธ ตัวอย่างของเกียรติภูมิของทหารในเรื่องนี้ ....ใครอยากรู้ว่าจริงหรือไม่? คงต้องถามผู้การแดง แห่ง พล.1 รอ. ที่นั่งคุมกำลังรบในเมืองกรุงวันนี้ดูนะไอ้ตู่ (แดง)

หรือหากยังคลางแคลง....แล้วยังหาญจะท้าทาย ก็อย่าได้หมายว่าชื่อเดียวกันแล้วจะปล่อยให้รอดลอยนวลพื้นคอมแบทของ "ท่านตู่(เขียว)" ไปได้นะ จะบอกให้!!






น่าอับอาย... ขนาดพวกชินวัตรแอบเอาเงินที่โกงชาติไปลงทุนในทวายหลายพันล้าน
สื่อพม่าก็ยังรังเกียจ นังดอกไม้ของไทย อย่างไม่ไว้หน้า

......................
The Shame of Thailand! ความอัปยศของประเทศไทย...
She's the first female Prime Minister of Thailand, เธอคือนายกฯสตรีคนแรกของไทย
and also...และ
The most scandal !ฉ้อฉนที่สุด
The most stupid !โง่ที่สุด
The most unwanted !คนเกลียดชังที่สุด
The most corrupted !โกงกินที่สุด
** งามหน้าเลยมั้ยเสื้อแดงครับ**















ยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนในเงื้อมมือทรราชย์ ปล่อยสาวกทำกรรมไม่ว่างเว้นแต่ละวัน







คลิป เสื้อแดงสวะเดรัจฉานนรก รุมยำ พระสงฆ์
ข้อหา ไม่แขวนรูปทักษิณ และไม่ใส่จีวรแดง

หลังจากเสร็จงานศพญาติในซอยกำลังจะกลับวัด­ที่อีสานหลงเข้าไปในวงล้อม
...
.....พระรูปดังกล่าวเล่าว่าตนเองเดินทางมา­บ้านญาติเพื่อจะมาร่วมงานศพภายในซอยดังกล่­าว กระทั่งงานเสร็จอาตมางจึงได้เดินออกมาจากซ­อยเพื่อจะมาขึ้นรถเดินทางกลับวัดแต่ขณะนั้­นสังเกตเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังไล่รุมทำร้­ายชายคนหนึ่งอยู่ตนเองจึงได้พูดบ่นลอยไปว่­ามาทำอย่างนี้ชาวบ้านชาวช่องเข้าเดือนร้อน จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมคนหนึ่งที่ได้ยินไม่­พอใจก่อนจะตะโกนบอกกับคนอื่นๆว่าอาตมาเองไ­ม่ใช่พระทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เป็นชายฉกร­รจ์จำนวนมากฮือกันเข้ามาทำร้ายอาตมา จนต้องวิ่งหนีตายเข้าไปขอหลบภายในร้านขายไ­ดนาโมจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ­เอาตัวออกมาส่งที่สภ.เมืองนนทบุรี

"นิมนต์พระอาจารย์......... สละละทิ้งโบสถ์เป็นมิ่งขวัญกำลังใจ."

กับเด็กมันก็ไม่เว้น กับผู้หญิงมันก็ไม่เว้น
กับคนแก่มันก็ไม่เว้น กับพระมันก็ไม่เว้นครับ

โปรดระวัง คนเสื้อแดงขี้ข้าทักษิณใกล้บ้านท่าน!






ยุคยุคนี้นะหรือคือยุคใหน
ยุคอะไรไม่จำเป็นเห็นต้องถาม
คำตอบคือยุคทองของคนทราม

รวมหัวกันสวาปามสยามไทย
เป็นยุคของเหล่าเหี้ยระเรี่ยราด
เป็นยุคคนอุบาทว์ขึ้นเป็นใหญ่
เป็นยุคสัตว์หน้าขนคนจัญไร
ที่ย่ามใจมิยลยินกบิลเมือง

























สารเลว นี่หรือการเรียกร้องประชาธิปไตย

วันจันทร์ 24 มีนาคม 2557 เวลา 13:51 น.

ควายแดงไล่ตีและถีบ หลวงพ่อ ได้รับบาดเจ็บสาหัส !!...








หลวงพ่อเผ่นหนีจีวรปลิว หลวงพ่อผู้เคราะห์ร้ายเดินผ่าน ดงควายแดง หลวงพ่อไม่พอใจที่กลุ่ม แดง กวป.ปิดถนนประท้วงหน้าสำนักงาน ปปช. ทำเอาควายแดงไม่พอใจเกิดอาการคลุ้มคลั่งไล่ขวิดหลวงพ่อยับ !! ซึ่งหลวงพ่อได้รับบาดเจ็บหลายจุดบนร่างกาย ด้าน ตร.รีบแยกย้ายก่อนนิมนต์ออกจากพื้นที่ทันที










ประชาธิปไตยที่แดงตามหาและจะรักษาปกป้องมันด้วยชีวิต หากใครขวาง ต้องโดนทำลาย ไม่ว่าหน้าใหน อืมมมมมมม





กวป.บุกไล่กปปส.ยึดพื้นที่หน้าปปช.-รุมยำพระอ่วม....

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี กลุ่มกปปส.นนทบุรีและกลุ่มเสรีชนคนเมืองนนท์ นำโดยนายราเชน ตระกูลเวียง แกนนำกปปส.นนทบุรีและนายสุขุม....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1nSBz5S








ใครคืออำมาตย์?

ระบอบทักษิณและบริวารออกอาการเดือดดาล ทำตัวอันธพาลไปทั่วเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6:3 ชี้ว่าการเลือกตั้ง 2 กพ.ที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือ "โมฆะ"

พอตั้งธงไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น ก็แน่หละฟาดงวงฟาดหางด่าศาลสารพัด บางคนไม่อ่านแม้กระทั่งคำวินิจฉัยด้วยซ้ำว่าโมฆะเพราะอะไร...

บทจะพาลหาเรื่องโจมตีอำมาตย์ ด่าอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ กล่าวหาเป็นกบฎ ไม่เคารพกติกา ไม่เป็นประชาธิปไตย ผมยิ่งฟังเท่าไหร่ คำด่าพวกนี้ยิ่งเข้าใกล้ตัวพวกเขา หรือระบอบทักษิณนั่นเอง

ใครหละไม่เคารพกติกา? ศาลตัดสินจำคุก แต่หลบหนีเฉย

ใครหละอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ? เป็นนักโทษแต่ยังบงการรัฐบาลได้

ใครหละอำมาตย์? ที่ใช้อำนาจชักใยกลไกรัฐรับใช้ตัวเองและพวกพ้อง

ใครหละทำลายประชาธิปไตย? สช้เสียงข้างมากทำลายความถูกต้องชอบธรรม

ใครหละเป็นกบฎ? ศาลตัดสินแล้วไม่ยอมรับก็พฤติกรรมเป็นกบฎชัดๆ

ยิ่งด่ายิ่งเข้าตัว ยิ่งพูดยิ่งเห็นชัดว่า "อำมาตยาธิปไตย" ก็คือ "ระบอบทักษิณ" นั่นหละครับ.

สุริยะใส กตะศิลา




































น่าอนาจ.................สื่อไทยเงียบกริบ ข่าวชาวบ้านเจออาวุธสงคราม จำนวนมาก ที่เมืองชล ไม่สะดุ้งสะเทือน หรือตั้งข้อสงสัย ว่า นี่คืออาวุธร้ายแรงมากมาย ที่เดนมนุษย์ เตรียมไว้สังหารประชาชน แค่เห็นข่าวก็ขนหัวลุกซุ่แล้ว ยิ่งดูในรายละเอียด อาวุธสงคราม ที่งมขึ้นมาจากน้ำ เป็นลูกระเบิดแบบ ค.60 จำนวน 8 ลูก และลูกปืน ค.81 อีก 13 ลูก ซึ่งทั้งหมดจมในน้ำระดับหัวเข่า และมีสภาพพร้อมใช้งานทุกลูก เพราะมีการอัดจาระบ...ี กันความชื้นไว้หมด และคาดว่าภายในบ่อน้ำ อาจจะมีอาวุธสงครามหลงเหลืออีก โดยเฉพาะในส่วนน้ำที่ลึกกว่านี้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นของผู้ใด แต่ทุกลูกมีรหัสภาษาไทย ทั้งหมด คาดว่าจะเป็นอาวุธที่ ผลิตในประเทศไทย

วงในสีเขียว แอบกระซิบว่า อาวุธเหล่านี้ มาจากลพบุรี ดูจากรหัส มีผู้เอามาซุกซ่อนไว้ เมื่อมีคำสั่งปฎิบัติการ จะไปงมขึ้นมา อาวุธที่จับได้หลายครั้ง หรือยิงฝ่ายตรงข้าม ส่วนหนึ่ง ไปเอามาจากชลบุรี เป็นอาวุธที่ยึดมาจากทหารปี 53 และขโมยออกมา ซุกซ่อนไว้ กลุ่มปฎิบัติการ เป็นพวกมือปืนเมืองปทุม.............
See More






Pong 11 (20x24)

Pong 11 (20x24)
Original handpainted oil painting on canvas

Wanna Yookong 111 (97x197cm)

Wanna Yookong 111 (97x197cm)
Original handpainted oil painting, Realistic Style

Kitja Noree 102 (24x36)

Kitja Noree 102 (24x36)
Original handpainted oil painting, Impressionist Style, Floating Market

Thawan Pramarn

Thawan Pramarn
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY TAWAN PRAMAN, SIZE 70 x 90 cm

Chalor Ditpinyo

Chalor Ditpinyo
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY CHALOR DITPINYO, SIZE 90 x 120 cm.

Thongchai Arunsaengsilp

Thongchai Arunsaengsilp
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY THONGCHAI ARUNSAENGSILP

Boonchai Methangkul

Boonchai Methangkul
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY BOONCHAI METHANGKUL, SIZE 1 x 126 cm

Chavana Boonchoo

Chavana Boonchoo
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY CHAVANA BOONCHOO, SIZE 18 x 24"

Patamares Livisit

Patamares Livisit
ORIGINAL HANDPAINTED IMPRESSIONIST OIL PAINTING BY PATAMARES LIVISIT, SIZE 24 x 36"

Bangkok Art Center by HAS