มันจบแล้วนาย..ความลับแตก

ความลับทักษิณถูกเปิดเผยแล้ว
งามหน้าละทีนี้!!!
เคยมีข่าวมานาน แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยัน!!!
คราวนี้ไม่ต้องสืบแล้ว เพราะต่างประเทศลงข่าวว่า
บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม ที่ทำธุรกิจด้านพลังงานของรัฐอาบูดาบี ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ออกคำแถลงผ่านสื่อต่างประเทศว่าพวกเขาได้รับสัมปทานเข้าไปพัฒนาแหล่งพลังงานในอ่าวไทย ที่เรียกว่า “แหล่งนงเยาว์” โดยจะเริ่มดำเนินการพัฒนา ในเชิงพาณิชย์ภายในปีห......น้า (2558) เป็นต้นไป รายงานข่าวดังกล่าวเผยแพร่โดยสำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อสองสามวันก่อน ที่อ้างคำแถลงอย่างเป็นทางการจากบริษัทดังกล่าวที่มี คัลดูน คาลิฟา อัล มูบารัค เป็นซีอีโอ เปิดเผยเรื่องนี้ให้ทราบ โดย เขายังควบตำแหน่งประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ของสโมสรฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีกในอังกฤษ ที่ซื้อกิจการต่อมาจาก ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ ตามรายงานข่าวดังกล่าว ระบุว่า บริษัท มูบาดาลาฯ จะได้รับประโยชน์จากสัญญาสัมปทานพลังงานแปลง “นงเยาว์”ในอ่าวไทย ในสัดส่วนราวร้อยละ 75 และมีบริษัทพลังงาน ในชื่อ คริส เอ็นเนอร์จี จากสิงคโปร์ ที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วน ได้รับส่วนแบ่งที่เหลืออีกร้อยละ 25 ที่น่าสนใจก็คือ แหล่งน้ำมันแห่งนี้ มีศักยภาพในการผลิต น้ำมันรองรับได้ถึงวันละ 15,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มอีกว่า ที่ผ่านมาบริษัทพลังงาน ของรัฐอาบูดาบี ดังกล่าว ยังมีการจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อดำเนินธุรกิจ ในประเทศไทยในชื่อ “เพิร์ล ออยส์ (ประเทศไทย) จำกัด” มีสำนักงานอยู่ที่ “ตึกชินวัตร 3” โดย บริษัทเพิร์ลออยส์ฯ ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางด้านธุรกิจพลังงานกับ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะในด้านการทำธุรกิจด้านพลังงานในอ่าวไทย ทั้งที่อยู่ในเขตไทย และในเขตที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิ โดยมีการดึงเอาบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมหรือ ปตท.สผ.เข้ามาเป็นหุ้นส่วนมาก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 นายสรรเสริญ สมะลาภา อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ที่ยกทรัพยากรธรรมชาติของชาติไปให้ ทักษิณ ชินวัตร ไปขายให้กับต่างชาติ สอดคล้องกัน กับคำให้สัมภาษณ์ของ ปลัดกระทรวงพลังงาน ณอคุณ สิทธิพงศ์ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งเป็นกรรมการปิโตรเลียม เปิดเผยว่าคณะกรรมการปิโตรเลียมได้เปิดพื้นที่ ผลิตปิโตรเลียมใน แหล่งนงเยาว์ ตามข้อเสนอของ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยมีบริษัท เพิร์ลออยส์ฯ เข้าไปพัฒนา อยู่ในแปลงสำรวจ จี11/48 ในอ่าวไทย เมื่อเชื่อมโยง คำแถลงล่าสุดของบริษัท คัลดูน คาลิฟาฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ และตัวซีอีโอที่ออกมายอมรับการเข้าทำธุรกิจพลังงาน ในอ่าวไทย โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป และการเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ที่มาที่ไปกับ ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ลงนามสั่งการ รวมไปถึงบรรดารัฐมนตรี “ขี้ข้า” ที่พร้อม “รับงาน” ไม่ว่าจะเป็น รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล และ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพลังงาน ทั้งคนก่อน คนปัจจุบันอย่าง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ความเคลื่อนไหวที่เห็น แม้ไม่ต้องอธิบาย ก็สามารถหลับตานึกภาพเห็นได้ชัดเจนกันอยู่แล้ว ว่านี่คือ รายการ “สมคบกันฮุบ ทรัพยากรของชาติ” ไปเป็นของส่วนตัว โดยใช้อำนาจรัฐ ใช้รัฐบาลที่มีน้องสาวนตัวเอง และบรรดารัฐมนตรี “ขี้ข้า” ทั้งหลายช่วยอำนวยความสะดวก ทุกอย่างเป็น “จิ๊กซอว์” ที่ต่อเชื่อมเห็นภาพได้ อย่างชัดเจน และที่ผ่านมาแม้ว่า จะมีการรับรู้ และคาดการณ์กันอยู่ล่วงหน้าในทำนองว่า “กูว่าแล้ว” อะไรประมาณนั้นแหละ เพียงแต่ว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน มีแต่การปะติดปะต่อ คาดเดาจากความเคลื่อนไหวและการเดินสายไปเจรจากับ ต่างประเทศที่มีพิรุธ และสื่อต่างประเทศก็เคยมีการรายงานตั้งข้อสงสัย ออกมาให้เห็นเป็นระยะ ไล่หลังการเดินทางของ ทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร อยู่เสมอในเรื่องของ ผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจพลังงานทั้งในอ่าวไทย พม่า เป็นต้น รวมทั้งเวลานั้นกระแสต่อต้านรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ ยังไม่มีแรงพอ ทำให้สังคมเกิดความรู้สึกร่วมได้มากเหมือนในตอนนี้ ดังนั้นการยอมรับและ การแถลงอย่างเป็นทางการ ของบริษัทพลังงานที่เข้ามารับสัมปทานขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยของบริษัทที่เชื่อมโยงกับ ทักษิณ ชินวัตร คราวนี้มันจึงไม่ต่างจาก “ใบเสร็จ” ชิ้นสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าคนในครอบครัวนี้กำลัง “ฮุบทรัพยากรของชาติ” ไปเป็นของส่วนตัว อย่างหน้าไม่อาย และนี่แหละคือ “ทุนสามานย์ข้ามชาติ” ที่คนอย่างเขาทำตัวทั้งเป็น “นายหน้า” และร่วมหุ้นแบบที่ ไม่ต้องลงทุน ขณะเดียวกันกรณีนี้ยังเป็นตัวอย่างและเป็นอีกคำตอบว่า ทำไมการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลทรราชย์ของ “มวลมหาประชาชน” ในไทยจึงได้รับการบิดเบือน และโจมตีจาก มหาอำนาจตะวันตก ก็เพราะมีผลประโยชน์ ทางธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นแหละ ยิ่งเห็นภาพชัดแบบนี้ ก็ต้องถึงเวลาที่รวมพลังกัน ขับไล่พวกทรราชย์ไปทั้งโคตร!! แชร์แฉเรื่องจริงเรื่องนี้ ไปให้เยอะๆ เพราะสื่อหลัก มันไม่ทำข่าวพวกนี้ให้ ปชช.ทั่วไปรู้ ยิ่งคนรู้มากยิ่งช่วย ประเทศได้มาก อ่านแล้ว ช่วยส่งต่อให้มากที่สุดด้วยSee More

จับตา..แก๊งค์อั้งยี่แดงป่วน จากบทสวดอิติปิโส..เป็นกุศลาธรรมมาแทน
อัพเดทล่าสุดเมื่อ 6 ชั่วโมงที่แล้วผิดพลาด! การอ้างอิงการเชื่อมโยงหลายมิติไม่ถูกต้อง
21 ก.พ.57 จับตา..แก๊งค์อั้งยี่แดงป่วน จากบทสวดอิติปิโส..เป็นกุศลาธรรมมาแทน

หลังจากปูเน่าเข้าทำเหยียบทำเนียบตามฤกษ์หมอดูหม่องไม่ได้ก่อน 24.00 น.ของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 และไม่สามารถทาสีพระพรหมที่หลังคาทำเนียบเป็นสีแดงได้ ก็เริ่มบังเกิดผลร้ายต่อด...วงแตกต่อปูเน่า ชายดูไบ และแก๊งค์อั้งยี่แดงในทันที ( เอ้า บ้าดวงไปกับตระกูลนี้ไปด้วยก็ได้ )

1. สายข่าวพบการปรากฏกายของสัมภเวสีเร่ร่อนชายดูไบ กับหญิงสาวสวยคนเดิม และสมุนจำนวนหนึ่ง ที่เมืองดูไบ นั่งหารือกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะแผนการทั้งหมดล้มเหลวจนหมดสิ้น

2. เปาบุ้นจิ้นอาญา ให้ประกันหมอระวี แกนนำม็อบ กคป.กับพวกที่เหลือทุกคน แม้ว่าชายชุดดำจะยื่นคัดค้านการประกัน เปาบุ้นจิ้นก็ไม่อนุมัติ ส่งผลให้ผู้ชุมนุมทุกคนไปนอนเล่น Facebook ที่จุดชุมนุมเดิมได้โดยห้ามชายชุดดำมารบกวนสมาธิ

3. เปาบุ้นจิ้นนนท์ อนุมัติหมายจับแกนนำ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) นำโดยศรรักษ์ มาลัยทอง นายวรัญชัย โชคชนะ รวมพวก 5 คน โทษฐานนำทุยแดง ตกมัน 200 คนไปล้อม และปืนรั้วบุกรุก เข้าไปในบริเวณสำนักงาน ป.ป.ช. และใช้ค้อนทุบทำลายกุญแจและโซ่ที่ล็อกประตูรั้ว เพื่อยุติการไต่สวนทุจริตรับจำนำข้าวโครตโกงของปูเน่าและแก๊งค์อั้งยี่แดง

4. เปาบุ้นจิ้นแพ่งเอาคำพิพากษา ที่บังคับให้ปูเน่า-เป็ดเหลิม-อับดุล ต้องปฏิบัติตามข้อห้าม 5 ข้อ มาติดประจานไปทั่วโลก ที่ประตู 5 ทำเนียบฯ

5. เปาบุ้นจิ้นปกครอง มีคำสั่งรับคำฟ้องชาวนา ที่ยื่นฟ้อง กระทรวงพาณิชย์ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย ที่ถูกปูเน่าชัดดาบจำนำข้าวเปลือกไป แล้วให้แต่ใบประทวนมากินแทนไปก่อน ตามที่นกแสกบอก

6. ปูเน่าผู้ขุดรูอยู่ หนีคดีอาญา และหนีเจ้าหนี้ชาวนามาทวงหนี้ที่ถูกชักดาบเงินค่าข้าว ได้หายตัวลึกลับ แต่ใช้การบริหารราชการ และแถลงข่าวผ่าน Facebook แทน..นับเป็นมิติใหม่ของนายกฯ ในโลกนี้ และโลกหน้า

7. หลังการพ่ายแพ้ในปะทะ 18 ก.พ. แล้ว การบริหารจัดการภายในศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) นั้น ตอนนี้จึงอยู่ในสภาพเรือล่ม มั่วซั่ว แตกกันเละเทะมาก ด่า เถียงกันเอง สั่งการสับสน การข่าวผิดพลาด และข่าวรั่วออกมาตลอดเวลา
- เป็ดเหลิม – อับดุล - ย้อย – ริดสีดวง – มีวันนี้เพราะพี่ให้ เกิดอาการเหวอแดก หลังทำให้คนตาย 5 คน เจ็บเกือบ 70 คน และแอบอ้างคืนพื้นที่ว่าจะจัดงานกาชาด แต่ถูกปฏิเสธจากกาชาดเองว่าไม่จริง และจอมลวงโลก
- จึงส่งผลให้ต้องทิ้งลอยแพลูกน้อง แน่นอนแล้ว บางคนเตรียมเผ่น บางคนถูกมนต์สะกดของขลังสีเขียวเข้ม จนรู้สึกมึนๆ หัว..ฮา
- ริดสีดวง จอมบิดคดี (เมียน้อยชื่อไก่ ทำนมกับจมูกมา อยู่ หมู่บ้านเศรณีปาร์ค ถ. นาวงประชาพัฒนา แขวงทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพ มีลูกอายุกว่า 11 เดือน แอบมีสัมพันธ์กันมานานกว่า 11 ปี..แถมยังซื้อรถใหม่เอี่ยมให้เมียน้อยอีกคนที่ทำงานเดียวกัน ไปไหนมาไหนมีการ์ดคุ้มกันเมียน้อย 4-5 คน ) ตอนนี้ขนาดจะตัดผมยังต้องเรียกช่างมาตัดในห้องน้ำ เพราะไปไหนมาไหนไม่ได้เลย ถ้ารอดจากเชพกระเหล็กรอคั่วข้าวโพดร้อนๆ เสริฟอยู่เพียบ ก็จะต้องเจอผัวเก่าของน้องไก่ เมียน้อย ไอ้ริดที่มันไปขอกระชับพื้นที่เมียเขามา แต่ตอนนี้ ผัวเก่าเขากำลังจะมาขอพื้นที่คืน (หุย ฮา)

8. ผลจากคำพิพากษาของเปาบุ้นจิ้นแพ่ง ได้เริ่มบังเกิดผลร้ายต่อดวงแตกปูเน่าในทันที
- เปาบุ้นจิ้นแพ่งเคยมีคำสั่ง เมื่อวันที่ 31 มกราคม 57 ว่าห้ามมิให้จำเลยผู้ถูกฟ้อง (ปูเน่า- เป็ดเหลิม – อับดุล) กระทำการให้ประชาชนได้รับความเสียหาย ดังนั้นเหตุการณ์ที่ประชาชนตาย และเจ็บจำนวนมาก เมื่อ 18 ก.พ. นั้น เท่ากับจำเลยทั้ง 3 คน กล้าขัดคำสั่งเปาบุ้นจิ้นที่ปฏิบัติภายไต้พระปรมาภิไธย ส่งผลให้คำพิพากษากฎหมายดังกล่าว มีผลบังคับใช้ต่อจำเลยทั้ง 3 คนโดยอัตโนมัติ
- จำเลยทั้ง 3 คน และชายชุดดำทั้งหมดที่กระทำรุนแรง เช่น นำโดยกวี คัชจากชลบุรี ยศจากสระแก้ว และลูกน้อง ทั้งหมด (ทำเนียบ-นครชั้นใน , ผ่านฟ้า-ภูธร 2 , พลังงาน-ภูธร 5 และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ) ทุกคน
- ต้องรับผิดอาญา แพ่ง และปกครอง ตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 17 โดยเปาบุ้นจิ้นไม่ต้องทำการไต่สวนใหม่อีก..เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า ที่เป็ดเหลิมช่วยทำหลักฐานออกสื่อให้แล้ว..(ฮา หลงกลลวงอีกแล้ว)
- ตามคำสั่งของเปาบุ้นจิ้นแพ่งดังกล่าว หมายความว่า การที่จำเลย ทั้ง 3 คน และชายชุดดำคนหนึ่งคนใด กระทำให้ประชาชนตาย บาดเจ็บ หรือ พิการ “ก็ต้องรับผิดทั้งทางอาญา และทางแพ่ง” ทันที ผลความผิดจึงเกิดขึน ณ วันที่กระทำผิดนั้นเลย..เพราะ พรก.ฉุกเฉินฯ ไม่คุ้มครองผู้สั่งการ และชายชุดดำผู้ปฏิบัติเกินคำสั่งคุ้มครอง
- ทางอาญา คือมีความผิดฐานฆ่าจงใจคนตาย บาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 หรือ 289 มาตรา 297 มาตรา 295 (แล้วแต่กรณี)
- รวมทั้งปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย ต้องโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และจำคุก อีกคนละหลายกระทง ,ในทางแพ่ง ทางปกครอง ก็ต้องจ่ายค่าสินไหมพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5% ให้กับผู้เสียหาย ญาติ ทุกราย (ข้าราชการอาจต้องจ่ายเงินคืนจนเกษียณก็ชดใช้กันไม่หมด)
- ดังนั้น ปูเน่า- เป็ดเหลิม – อับดุล และ ชายชุดดำผู้ปฏิบัติทั้งหมดที่ทำรุนแรง ราว 1 หมื่นคน บัดนี้เขาอยู่ในสถานะ “ผู้ต้องหา” ที่จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีทันที ( ยกเว้น กปปส.ชายชุดดำ ที่เป็นสายในวันนั้นจะถูกกันตัวไว้เป็นพยาน และปูนบำเน็จ )
- ชายชุดดำอื่นๆ ที่เจอผู้ต้องหาซึ่งหน้า (ปูเน่า- เป็ดเหลิม – อับดุล และ ชายชุดดำทั้งหมดที่ทำรุนแรง ฯ) ถ้าพบผู้ต้องหาอาญาแล้วไม่จับกุมตัว จะต้องโดนข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย ต้องไล่ออกจากราชการและจำคุก

** บอกแล้วไม่เชื่อ เป็ดเหลิมมีคุณสมบัติพิเศษ 3 อย่างสำคัญ คือ “ กร่างเวลามีอำนาจ เป็นแม่เหล็กเรียกแขก , ถ้าออกมาฟันธงอะไรล่วงหน้า ผลสุดท้ายออกตรงข้ามเสมอ , และเป็นลูกน้องใคร พาเจ้านายตายหมด” เมื่อกลิ่นชาย 3 สีโชยออกมาคราใด เป็ดเหลิมมักจะได้รับความเดือดร้อนทุกครั้ง จะต้องหนีข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปอยู่เดนมาร์ก หรือที่ไหนอีกหนอ และไอ้ปื๊ด ฆ่าดาบยิ้ม ที่เดินอยู่ใกล้ๆ จะต้องตามไปด้วยไหม..ฮา

9. ช่วงนี้มีการระดมทุยแดง อย่างผิดปกติในหลายรูปแบบ เช่น
- แก๊งค์นักเลงมือปืน แฝงตัวปะปนมากับขบวนชาวนาเข้า กทม. (เป็นการเคลื่อนไหวรักษาฐานเสียง ไม่นานก็กลับ )
- วางแผน และข่มขู่ว่าจะเปิดฉากสู้รบกับมวลชน กปปส. (วันที่ 22 ก.พ. แก๊งค์อันธพาลแดงตัวเอ้ จะซ่องสุมหัวจัดงานมวลมหาประชาชนตาสว่างราว 80 คน , วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. จัดงาน นปช.ลั่นกลองรบ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โคราช ประมาณ 4,000 คน)
** ใครจะไปงานทุยแดงต่อไปจากนี้ ต้องบอกแกนนำทุยแดงสู้แล้วรวยว่า ขอเติมเงินก่อน 2,000 บาทต่อวัน พร้อมค่าพาหนะต่างหาก ถ้าน้อยกว่านี้ไม่ต้องไป เพราะท่านโดนหักหัวคิว ต้องไม่ยอม !!

เสธ นอนหลับฝันไปว่า ตอนนี้มีคำสั่งเรียกกำลังพลชาย 3 สี ที่เป็นปึกแผ่นมากในเขต กทม.แล้ว , หน่วยการข่าวความมั่นคงของรัฐอั้งยี่แดงแตกกัน.!! เจ้าหน้าที่ข่าวกลุ่มหนึ่งขึ้นตรงกับภราดร แต่อีกกลุ่มส่วนใหญ่ถอยออกมาแล้ว , ชายดูไบลงทุนจ่ายค่าจ้าง 1,000 ล้านบาท ตั้งทีมการ์ดอารักขาคุ้มกันปูเน่าพิเศษช่วงนี้

** โดยไม่ใช้ชายชุดดำสายเป็ดเหลิม หรือ สายแจ๊ส เพราะระแวงกลัวถูกหักหลัง จับตัวปูเน่าเป็นตัวประกันเสียเอง โดยมีการคัดเลือกชายชุดดำฝีมือดีมาร่วมทำงานหลายคน และจัดหาแหล่งกบดานให้กับปูเน่าไว้หลายแห่ง ( กลัวอินทิรา คานที โมเดลเหรอ)

ดังนั้นหากผู้ต้องหา (ปูเน่า- เป็ดเหลิม – อับดุล และ ชายชุดดำทั้งหมดที่ทำรุนแรง ฯ) มีการต่อสู้ขัดขืนการจับกุม และระดมทุยแดงมาปะทะ การประกาศกฎอัยการศึกคงมีขึ้นทันที หน่วย กปปส.ชายชุดดำฝ่ายดี ที่มาสวามิภักดิ์ประชาชน ใครมาก่อนจะสามารถตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานชาย 3 สี ได้ตามกฎอัยการศึกได้ มีอำนาจจับกุม ใช้อาวุธกับ ผู้ต้องหาฝักไฝ่ทุยแดงฮาร์ดคอร์ทุกคนได้เลย

ถ้าผู้ต้องหาฯ ทั้งหมดยอมให้ ชาย 3 สี และ กปปส.ชายชุดดำ จับกุมแต่โดยดีก็รอดไป แต่ถ้าขัดขืนด้วยอาวุธ ก็ถือว่าเป็นกบฏ ฝ่ายดีสามารถวิสามัญฆาตกรรมทุกคนได้เลยอย่างถูกกฎหมาย..ตอนนี้ได้ข่าวว่าฝ่ายการเมืองแก๊งค์อั้งยี่แดง และ ผบ.ชายชุดดำ เริ่มจะสั่ง “ สังหารตัดตอน” อุ้มหน่วยปฏิบัติพิเศษหลายร้อยคน ที่ใช้อาวุธยิงประชาชนในวันนั้นแล้ว เพื่อไม่ให้มีพยานที่เป็นลูกน้อง สาวโยงมาถึงตนเองเมื่อขึ้นสู้คดีกับเปาบุ้นจิ้น

หลังเหตุการณ์เรียบร้อย กปปส.ชายชุดดำฝ่ายดี ชุดแรกที่มาก่อนเหล่านี้ จะได้รับโบนัสแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสำคัญๆ แทน ผบ./รอง ผบ.ชายชุดดำแห่งชาติ , ผบ.นครชั้นใน, ผบ.ภาค , จังหวัด , หัวหน้าสถานีทั้งหมดที่ไม่ยอมมาลงชื่อสวามิภักดิ์ จะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง แล้วตั้งคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย ( ชาย 3 สี , กกปส.ชายชุดดำฝ่ายดี , ประชาชน ) เพื่อสอบสวนความผิดวินัย

กปปส.สันติบาลชายชุดดำฝ่ายดี แจ้งมาว่าบ้านที่ซอยโยธินพัฒนา 3 เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ของปูเน่า สนามฟุตบอลข้างบ้านถูกปรับให้สามารถลงจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ และมีคำสั่งให้แสตนบายเฮลิคอปเตอร์สองลำ คือ Bell ของกองบินชายชุดดำ และ EC 135 ของเอกชน

ตอนนี้บรรดาแกนนำแก๊งค์ในรัฐอั้งยี่แดงเตรียมหนีกันหมดแล้ว ใครเจอให้ควบคุมตัวได้เลยทันที ที่ เชียงใหม่ เชียงราย ถูกบล็อกแล้ว , ด้านทิศเหนือหากข้ามแดนไปเจ้ายอดศึกไทใหญ่พร้อมจัดการแล้ว , ชายแดนด้านอื่นถูกบล็อกแล้ว , ด้านตะวันตกพม่า อีสาน เขาขัดข้าวโพดคั่วรอแล้ว ตะวันออก ด้านเขมร และทางทะเล ชายชุดขาวเตรียมจัดหนัก แต่ถ้าจะลงไต้..ถามกำนันหรือยัง..ฮา

แจ้งชาวนา หรือ มวลชนผู้ชุมนุม เพื่อทราบ หากชายชุดดำที่ยังเชื่อฟังผู้ต้องหาเหล่านี้ และกลัวแค่คำสั่งทางวินัย บุกสลายประชาชน
- ถ้าเขาใช้เครื่องยิงตาข่ายยิงคลุมจับฝูงชน ให้โยนขวดน้ำขึ้นให้โดนตาข่าย ตาข่ายจะรวบจับขวดน้ำก่อนจะไปถึงตัวผู้ชุมนุม
- ให้รีบถอยห่างออกมาจากแนว อย่าเข้าปะทะชายชุดดำโดยเด็ดขาด ให้คอยดูสัญญาณการ์ดโดยเคร่งครัด แล้วให้ชาวนาและมวลชนมอบราบลงกับพื้นหรือหาที่กำบัง ป้องกันถูกลูกหลง..
- จะมีพ่อค้าข้าวโพดคั่วใจดีไปจัดบริการถึงที่ ช่วยจัดแถวยืนตรงชายชุดดำ ให้เป็นแถวแนวนอนสงบนิ่งไม่ไหวติงเอง!! ( ส่วนนเรศวร 261 หรือหน่วยพิเศษอื่น บนยอดตึกจุดสูงข่ม นั้น..ขอเตือน..จะไม่ได้กลับบ้านสภาพเดิม เพราะยุทธการมันรู้ทันกัน )

สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และเส้นทางหนีอากาศทุกทางถูกบล็อกแล้ว เจ้าหน้าที่คนใดสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาเหล้านี้เป็นๆ ได้ก่อน จะได้รับการปูนบำเหน็จความชอบอย่างงาม หลังเปลี่ยนผู้ปกครองใหม่..

ถ้าใครให้ใช้เครื่องบินราชการ หรือ เอกชน เป็นพาหนะขนผู้ต้องหาคดีอาญาหลบหนี จะโดนข้าวโพดฝักชนิดมีท่อนำวิถี จนเครื่องกระจายกลางอากาศ เมื่อเครื่องร่วงลงพื้น ค่อยไปค้นชิ้นส่วนร่างกายผู้ต้องหา มาสอบปากคำอีกที !!

พระท่านให้สวดอิติปิโสดันไม่ฟัง..เลยต้องสวดกุศลาธรรมมาให้แทน !!

ในกลศึก 3 ก๊กนั้นเมื่อคราขงเบ้งหลอกโจโฉ จะมีทั้ง “ จริงคือจริง จริงคือเท็จ เท็จคือเท็จ เท็จคือจริง “ ใครอ่านใจใครออกก็ชนะ แต่ขงเบ้งกลับชนะทุกที..ฮา (จะมีต่อในครั้งต่อไป )

เรื่องเดิม..เอาแล้วเปิดตัว กปปส.ชายชุดดำแปรพักตร์..อินทิราคานทีโมเดล ที่

@เสธ น้ำเงินSee More


ฮาไปทั่วโลกสื่อจีนล้อเลียนยิ่งลักษณ์อย่างเจ็บแสบ ที่โกงข้าวชาวนาแล้วยังมีหน้าเพ้อฝันที่จะทำรถไฟฟ้าความเร็วสูง

แฉ..มือระเบิดข้างปั้มข้างอนุสาวรีย์ เกี่ยวพันแก๊งค์อั้งยี่แดง เขมร

ที่ผ่านมาช่วงได้เปรียบ ชายดูไบ และ ปูเน่า พูดกับคนใกล้ชิดว่า “ หากจะได้อำนาจรัฐ ก็ให้มาปฏิวัติเอาไป” แต่เมื่อสถานการณ์ตกเป็นรองอย่างมาก ท่ามกลางแรงกดดันใส่รัฐอั้งยี่แดงอย่างหนักหน่วง ขนาดชายดูไบลงทุนจ้างการ์ดพิเศษให้ถึง 1,000 ล้านบาท เพื่อคุ้มครองปูเนืที่ต้องเปลี่ยนที่นอนเร่ร่อนไปทุกวัน เพราะกลัวถูกคุมตัวที่เป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ...ตอนนี้ปูเน่ากลายเป็นบุคคลสูญหายชั่วคราว เก็บตัวเงียบอยู่ในคอนโดแห่งหนึ่ง ใน กทม. เพื่อความปลอดภัยของให้พ้นจากไล่ล่าตาม อินทิรา คานที โมเดล

กลายเป็นนายกฯ เฟสบุ๊ก เอกสารที่เซ็นต์ออกมา กลายเป็นลายเซ็นต์นายกปลอม การเจรจาสงบศึกหลายรอบ เงื่อนไขที่ชายดูไบเสนอ ทั้งตัวนายกฯ คนกลางที่ต้องเป็นคนที่เขาเลือกเอง หรือรองนายกฯ ร่วมกัน ต่างถูกโห่ฮาตลกขบขัน ไม่มีใครยอมรับได้

ขณะนี้ที่จุดระส่ำระสายอีกจุด และก่นด่ารัฐอั้งยี่แดง และศูนย์ร่วมสัตว์ (ศรส.) กันระงมไปทั้งวงการชายชุดดำ คือ เหตุการณ์ปฎิบัติการสลายการชุมนุม ที่ผ่านฟ้าเมื่อวันที่ 18 กพ. จนมีคนตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เพราะทางฝ่ายบริษัทเผาไทย และ ผบ.ชายชุดดำ ต่างออกมาแถว่าลูกน้องฆ่า และทำร้ายประชาชนกันเองโดยพละการ ฝ่ายการเมืองและนายไม่ได้สั่ง..ลอยแพลูกน้องกันง่ายๆ แบบนี้แหละ

ส่งผลให้ต่อไปชายชุดดำผู้ปฏิบัติที่ตกเป็นเครื่องมือในวันนั้น คงต้องรับหมายศาลกันไม่หวาดไม่ไหว เดินขึ้นโรงขึ้นศาลกันเป็นว่าเล่น จนกว่าศาลจะตัดสินคดีสิ้นสุด ถูกไล่ออกจากราชการ และติดคุกตารางกันอีกมาก ชายชุดดำที่เหลือจึงแก้แค้น โดยการสละเรือที่จะคำรัฐอั้งยี่แดงให้อยู่ต่อไป แปรพักตร์กลายเป็นมวลชน กปปส.ชายชุดดำฝ่ายดี ที่ทะยอยหลั่งไหลเข้าไปติดต่อกับมือปราบหูดำจำนวนมากมายตลอดเวลา

ทำให้แก๊งค์อั้งยี่แดงหน้ามืดงัดแผนชั่ว เพื่อดึงเหล่าชายชุดดำให้กลับมาสวามิภักดิ์ตนเองอีกครั้ง โดยใช้แก๊งค์โกตี๋โจมตี ลักษณะกองทัพมด
- ให้ลูกน้องแก๊งค์โกตี๋ ชื่อชินจัง เอา M79 มา 10 ลูก มาก่อเหตุรายวัน เช่น ที่เวทีแจ้งวัฒนะ , ราชประสงค์ รวมทั้งโจมตีชายชุดดำในเครื่องแบบให้ตาย และบาดเจ็บจำนวนมากๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด และโกรธแค้นกัน..ตามยุทธศาสตร์แบ่งแยกเพื่อปกครอง
- และเป็นไปตามที่ เสธ เคยแฉ พยากรณ์ไว้นานแล้วว่า “ จะมีการลอบโจมตีข่มขู่ชายชุดดำใน ศรส.” ดังนั้นเมื่อคืนวันที่ 20 ก.พ.เวลา 22.30 น. ที่ผ่านมา จึงมีอันธพาลแดงยิงระเบิด M79 ชนิดไม่เจาะเกราะ ตกลงไปที่หลังคาคาร์แคร์ ในปั๊มบางจาก ถนนวิภาวดี ติดสถานีไทยพีบีเอส ห่างจากที่ตั้ง ศรส.สโมสรตำรวจ ของเป็ดเหลิมประมาณ 150 เมตร
- เป็นทีมฮาร์ดคอร์ของอเวจีแดง จงใจยิง ศรส. เพื่อโยนบาปให้ กปปส.และสร้างความโกรธแค้นให้ชายชุดดำ ที่ถูกเป็ดเหลิมสั่งคุมขังพักอยู่ใน ศรส.จำนวนมากเป็นหลักหมื่นคน แต่เนื่องจากอันธพาลแดงยิงจากในรถ ในขณะกำลังวิ่งบนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ เลยพลาดเป้าสำคัญ แต่พวกมันก็ถือว่าเป็นการปรับระยะประเมินวิถีกระสุน ซึ่งในครั้งต่อๆ ไปพวกนี้จะยิงเข้าใส่ชายชุดดำในนั้น ได้ตรงเป้าขึ้น

- เช้ามืดวันที่ 21 ก.พ.เวลา 00.40 น. ใช้ระเบิดสังหาร ชนิด RGD 5 ผลิตจากประเทศรัสเซีย ปาใส่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาซาฟารีเวิล์ด ( ที่ผ่านมาระเบิดชนิดนี้เคยถูกเคยจับได้ที่ สน.บางนา และผู้ต้องหาโทรหา รองนายก.ชื่อ ป. (อดีต ผบ.ชายชุดดำ) มาเคลียร์ , ใช้ในการลอบสังหารกำนัน ที่ถนนบรรทัดทอง และถาวร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหนีโดยรถมอเตอร์ไซต์ที่ว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดรวกบางบำรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ ใกล้บ้านหญิงกระบังลม

** การข่าวทราบมาว่า มือระเบิดแก๊งค์อั้งยี่แดงที่ปาระเบิดถาวร ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คือ นายกฤษฎา ไชยแค อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 660/5 หมู่ 2 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ช่วงก่อนเกิดเหตุอยู่กับเมียและลูกที่บ้านใน จ.นนทบุรี หลังก่อเหตุหลบหนีไปยัง จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี แล้วได้รับความช่วยเหลือจากแก๊งค์อั้งยี่แดง พาหนีข้ามไปเขมร โดยไม่ใช่ด่านของรัฐ แต่ใช้เส้นทางธรรมชาติลัดเลาะป่าเขาหลบกับระเบิดไป เหมือนชุดก่อการร้ายแดงฝึกอาวุธสมัยปี 53 ช่วงอยู่เขมรนายกฤษฎา ได้รับการคุ้มครองจากฮุนเซน แฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม เพราะเขาถนัดด้านนี้

- คืนวันที่ 21 ก.พ.เวลา 21.15 น. ใช้รถมอเตอร์ไซต์ขับขึ้นบนสะพานข้ามแยกประตูน้ำ ขว้างระเบิดลงมาใส่บริเวณสะพานข้ามคลอง แยกประตูน้ำ จากนั้นแก๊งค์อั้งยี่แดง ได้หลบหนีไปทางถนนเพชรบุรี ระเบิดตกใกล้ป้อมชายชุดดำ และเวทีชุมนุม กปปส.จุดราชประสงค์ ทำให้มีประชาชนที่เดินผ่าน ทำธุระแถวนั้น ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 ราย ดูแลแล้วกลับบ้านได้ มี 1 คน รับตัวไว้สังเกตุอาการที่ รพ.จุฬา รถยนต์เสียหายอีก 3 คัน..ข่มขู่ให้ประชาชนหวาดกลัว และชายชุดดำไม่กล้าเอาใจออกห่าง

ส่วนสถานการณ์ชาวนาเทียมจากอุทัย ที่มุ่งเข้า กทม. เมื่อช่วง 19 – 21 ก.พ. นั้น
1. ประวัติแกนนำม๊อบชาวนาจัดตั้ง คือชาดา เป็นมุสลิม อดีต สส.พรรคปลาไหล
- เมียเป็นนายกเทศอุทัย เขาเป็นมาเฟียใหญ่แห่งอุทัย มีสายสัมพันธ์กับยุทธ ยิงตู้เย็น , สมัยชายดูไบ เป็นนายกฯ เคยจัดกองทัพรถตู้ มาประท้วงที่บ้านนักฆ่าและลุ่มน้ำเจ้าพระยา
- เขามีเมียน้อยเป็นดารา เคยถูกจับฐานฆ่าคนตาย ออกมาจากคุก เขาได้แผ่อิทธิพลไปกว้างขึ้นจากอุทัย ไปจังหวัดใกล้เคียง เช่น ชัยนาท และได้ตีเมืองหลักนครสวรรค์ ไปอยู่ใต้อาณัติเรียบร้อยแล้ว เคยพัวพันการยิง นายก.อบจ.นครสวรค์ตาย เหตุขัดผลประโยชน์ประมูลขุดลอกบึง
- มั่นคงกับบิ๊กเตี้ย มี ลูกน้อง สส.ในพรรคมาก มีอิทธิพลพื้นที่ภาคกลาง วงการนักเลงต้องเกรงใจ ชายชุดดำภาคกลาง ภาคเหนือเกรงใจเขา และเริ่มขยายอิทธิพลไปภาคเหนือ รุกฐานการเมืองบริษัทเผาไทย ฉายา"ดาหลา" ของเขาชายชุดดำเรียกท่าน , สส.เรียกนาย , รัฐมนตรีบางคนเรียกพี่
- เขาทำธุรกิจมืด เช่น ฮั้วประมูล ซุ้มมือปืน ยาเสพติด เรียกค่าคุ้มครอง ฯลฯ คุม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาล อบต.ด้วยอิทธิพลมืด

2. การจัดขบวนม๊อบชาวนาจัดตั้ง
- มีการประชุมเตรียมการมาครั้งนี้ตั้งแต่ 10 และ 13 ก.พ. ที่ลพบุรี ชาวนาและทุกคนกลัวเขา การมาครั้งนี้ใช้งบ 15 ล้านบาท เขาให้เกณฑ์คละชาวนา และไม่ใช่มา หมู่บ้านละ 10 คน มีคนคุมมา มีชาวนาจริงๆ ที่มาด้วยใจบริสุทธิ์ เพราะอยากได้เงินค่าจำนำข้าว จากอุทัย ชัยนาท สิงห์บุรี นครสวรรค์ ลพบุรี และจังหวัดข้างเคียงรวม 8 จังหวัด
- เดินทางรถในขบวนด้วยรถไถใหม่ๆ และรถอีแต๋น มีชายชุดดำทางหลวงนำ และปิดท้ายขบวน มีรถดับเพลิง และรถครัวขนาดใหญ่ในขบวน เอาแก๊งค์มือปืนผูกผ้าสีส้มที่แขน ขี่มอเตอร์ไซต์อยู่กันเป็นกลุ่ม ของเขามาคุมขบวน บางส่วนปลอมเป็นการ์ด และชาวนา มีสายข่าวพบมือปืนใบหน้าคล้ายคนที่ยิง พ.อ.ร่มเกล้า อยู่ในขบวน
- ระหว่างทางแถวอินทร์บุรี ประกาศข้างทางว่ารับผู้ร่วมขบวนจ่ายวันละ 500 บาท/วัน ขบวนพักค้างคืนที่อยุธยา มีชาวนาบางคนที่รู้ตัวว่าถูกหลอกเป็นเครื่องมือบางกลุ่ม ขอแยกตัวไป ก็ถูกให้การ์ดไปตามกลับมา และห้ามชาวนาแยกตัวไปหรือกลับบ้าน
- มีการสับขาหลอกชาวนาว่า ขบวนจะไปที่กระทรวงพาณิชย์ แต่เขากลับประกาศว่าจะพาชาวนาไปดูเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ เนื่องจากชาวนาไม่เคยเห็นเครื่องบินใกล้ๆ ขณะเดินทางมีการเจรจาต่อรองเป็นระยะ ๆ ถ่วงเวลาให้เป็นข่าวจนต้องค้างคืนบนถนน 2 คืน ก่อนเข้ากรุงเทพ

3. วัตถุประสงค์ม๊อบชาวนาจัดตั้ง
- ต้องการรักษาฐานเสียงของเขาและพรรคปลาไหล ที่โดนรุกล้ำไปจากบริษัทเผาไทย และนโยบายจำนำข้าวและชักดาบเงิน ส่งผลต่อความนิยมของประชาชน
- ความเป็นนักเลงมาเฟียของชาดา จึงไม่ใช่หมากเกมส์ของใคร เพราะเขาเบอร์ใหญ่เกินกว่าจะมาเป็นหมากตัวแสดงในละคร
- คืนที่ผ่านมาเขาต้องการแสดงภาพว่าเขาเข้าพบปูเน่าได้ขณะที่ล่องหน ในขณะที่แกนนำชาวนาตัวจริงปูเน่าไม่ให้เห็นแม้แต่เงา
- ที่ผ่านมารัฐอั้งยี่แดงจ่ายเงินค่าจำนำข้าวให้เฉพาะพื้นที่ ส.ส.ของตนเองก่อน เช่น เชียงใหม่ กำแพงเพชร ฯลฯ แต่ไม่จ่ายให้พื้นที่อื่นที่เป็นฐานเสียงพรรคปลาไหล ส่งผลให้พรรคเขาเสียมวลชนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
- ปูเน่าฯ และทีมงานสัญญาว่าจะจ่ายเงินให้ชาวนาเฉพาะที่มากับชาดาก่อน การแสดงเพาเวอร์ของเขาสำเร็จ และสร้างความไม่พอใจให้ชาวนาที่ไปเข้ากับ กปปส. ทำให้เกิดการแตกแยกของชาวนาภาคกลาง ให้อาจต้องกลับไปสวามิภักดิ์กับพรรคปลาไหล
** เมื่อจัด Event เสร็จแล้วชาดาก็สั่งม๊อบชาวนาจัดตั้งกลับไปแล้ว แต่มีชาวนาบางส่วนไม่พอใจที่ถูกหลอกมา จึงไม่ยอมกลับและอาจจะเข้าร่วมประท้วงกับชาวนาที่กระทรวงพานิชย์

การใช้กลศึก คราขงเบ้งหลอกโจโฉ “ จริงคือจริง จริงคือเท็จ เท็จคือเท็จ เท็จคือจริง “ และ “ ลับ ลวง พราง “ ที่ผ่านมากดดันให้เครือข่ายแก๊งค์อั้งยี่แดง “ที่แท้จริง” และเครือข่าย “ ไม่แท้แฝงๆ แอบๆ “ ให้เปิดเผยตัวตนออกมาชัดเจนมากๆ ช่างได้ผลเป็นยิ่งนัก เพราะทำให้จำแนกแยกแยะขุมกำลังของรัฐอั้งยี่แดงว่า สถานะตอนนี้มีเพาเวอร์กำลังต้านทานมากสักขนาดไหน มีกำลังแท้จริงสักเท่าไร!! การจัดการก็จะเบาแรงขึ้นมาก..จะมีตัวละครของอั้งยี่แดงโผล่หน้าออกมาให้สอยอีกเรื่อยๆ เช่น พัลลภ ฯลฯ

เปรียบเหมือนเราจะขุดแย้ในรูลึก ถ้าเป็นทุยแดงมันก็จะใช้กำลังโดยใช้เครื่องทุนแรงเสียมขุดๆๆๆ ลงไปในดินและเปิดปากรูแย้ พอจะถึงตัวแย้มัน กลับหนีออกทางปล่องลับที่มันขุดเตรียมไว้ห่างจากรูอาศัยที่แท้จริง วิ่งหนีจากรูได้อย่างสบาย และจับเย้ไม่ได้ในที่สุด

แต่หากเราจับแย้โดยวิธีใช้สมองคิด คือ ใช้สายสูบลมยางแหย่เข้าไปในรูแย้ จากนั้นเอาตาข่ายถี่คลุมปากรูโดยรัศมีกว้างไว้ จากนั้นสูบอัดลมเข้าไปในรูแย้ตลอดเวลาถี่ ๆ แย้จะขาดอากาศหายใจทนไม่ไหว และทะลึ่งพรวดออกจากรูมาให้เราจับในตาข่ายที่คลุมไว้อย่างง่ายดาย

การใช้กลศึก “ลับไว้ ลวงให้ตายใจ พรางตัวเปิดตา” ที่ผ่านมาทำให้สมุนอั้งยี่แย้แดงโง่ๆ แสดงตัวตนดิ้นเร่า ๆ เผยออกมาจำนวนมาก แสดงพละกำลังป่วน และศักยภาพที่มีทั้งหมด เสมือนแย้หางแดงเหล่านี้ ถูกกลศึกเป่าลมอัด เพื่อลวงให้ออกมาจากรูและถูกจับได้นั่นเอง

ตอนนี้ประเมินว่าแก๊งค์อั้งยี่แดงตอนนี้พ่ายแพ้ตันหนทาง และไปต่อไม่ได้แล้วจริง แม้ทัพปูเน่าหลบภัยการจับตัวหลีกนี้ปัญหา ไม่กล้าออกมากรำศึกหลายวันแล้ว เตรียมลี้ภัยหนีไปต่างประเทศ สมุนจึงเหมือนคนขาดหัว ต่างขวัญกระเจิง เหล่าบรรดาฝ่ายการเมือง ผบ.ชายชุดดำ เมื่อประชาชนตายและเจ็บ ต่างทิ้งลอยแพลูกน้องให้เผชิญชะตากรรมคกตารางอันโหดร้าย

ชาย 3 สี (เขียว-ฟ้า-ขาว) ไม่เอาด้วย ไม่หนุน และแอบทำอะไรบางอย่างคล้ายสูบลมอัดเข้าไปในรู้แย้ (คงรู้ๆ กันอยู่) ,ข้าราชการต่างแปรพักษณ์เกียร์ว่าง, นักธุรกิจใหญ่ๆ ไม่สนับสนุน , สถาบันการศึกษาเบ้ง ๆ บอยคอต, สถาบันการเงินไม่กล้าสนับสนุนเฉียดใกล้ เพราะมีบทเรียนขนหัวลุกเกือบเจ๊งจากธนาคารกระปุกเด็ก , ชาวนาจริงที่ไม่ใช้ม๊อบจัดตั้งลุยไม่ถอยเพราะสุดทน , มวลมหาประชาชนรุกเกมส์หนักขึ้นทุกวัน, เปาบุ้นจิ้นมอบแต่ปืน (พรก.ฉุกเฉินฯ) ให้ศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) แต่ยึดลูกกระสุนคืนไป (พิพากษาไม่ให้รัฐแดงออกประกาศห้าม 9 ข้อ ) และห้ามใช้ปืน (พรก.ฉุกเฉินฯ) ที่มีไปใช้งานใด ๆ..คนมีปืนแต่ไม่มีลูก มันก็ดุ้นฟืนดีๆ นี่เอง !!

ชายชุดดำก็วงแตกที่ถูกลอยแพ ขอแปรพักตร์ไปหาอนาคต กปปส.ชายชุดดำฝ่ายดี ที่สดใสกว่า (ส่วนที่ยังฝืนๆ อยู่ถ้ารัฐแดงสั่งอะไร ก็จะขอเกียร์ว่าง..เข็ดแล้ว ไม่เอาแล้ว)..ใครจะบ้าออกมาสู้ เพราะคดีเก่ายังไม่รอด ใครจะโง่กล้ามาหาใส่หัวคดีใหม่เข้าตัว ไม่มีใครอยากค้ำบัลลังค์ให้รัฐอั้งยี่แดงอีกแล้ว..

มือกฎหมายรัฐแดงก็ฮ่วยแตก แพ้มันได้แทบทุกคดี , ขนาดวันนี้ทุยแดงดา และพวกราว 30 คน มันโง่ดันเข้าไปเขตรั้วอำนาจเปาบุ้นแพ่ง เพื่อไปวางพวงหรีด พอตอนบ่ายเจอจะออกหมายเรียกทุยแดงเข้ารับการลงโทษ ฐานเจตนาหมิ่นศาล มีโทษจำคุกถึง 6 เดือน..ซวยไปอีก กุนซือบ้าหรือเปล่า ในเขตรั้วศาลเขาได้รับการคุ้มครอง ใครเข้าไปประท้วง..ก็เจอคุกไปกินทันที แถมแบบนี้เป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่ต้องสู้คดีให้เสียเวลา สั่งจำคุกได้เลยทันทีทุกคน

ตำราพิชัยยุทธ์ “ เมื่อใจหวั่นไหวจึงต้องชักกระบี่ก่อน จุดอ่อนจึงถูกเปิดเผย เพราะจุดอ่อนถูกเปิดเผย จึงเปิดช่องให้ถูกจู่โจม “ รัฐอั้งยี่แดงใจหวั่นไหว จึงเปิดเผยจุดอ่อน จุดตาย ถูกกลศึกจนพ่ายแพ้จนหมดสิ้น ชายดูไบและแก๊งค์อั้งยี่แดง ปูเน่า ก็เดินมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว

แผน พราง ลับ ลวง แหย่เย้หางแดงออกจากรูนี่มันได้ผลเกินคาด..จำแนกมิตร ศรัตรู และฝ่ายที่กำกึ่ง ได้จนล่อนจ้อน..ประเมินสถานการณ์จากปัจจัยภายใน ด้านโครงสร้างและนโยบาย ลักษณะกำลังคน การเงิน วัสดุและอุปกรณ์ การบริหารจัดการ , ปัจจัยภายนอก ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและกฎหมาย เทคโนโลยี..รัฐอั้งยี่แพ้ราบคาบทุกด้านไม่มีเหลือหรอ

เปรียบเหมือนการชกมวย 5 ยก ระหว่างแก๊งค์ยี่แดงนำโดยปูเน่า กับมวลมหาประชาชนนำโดยกำนัน..ที่ผ่านมากว่า 3 เดือน ปูเน่าโดนกำนัน ทั้งเตะ ต่อย ชก ตีศอก คลุกวงในโน้มคอเข่า จนโดนกรรมการนับ 8 มาแล้วหลายครั้ง ตอนนี้มวยมาถึงยก 5 แล้ว..ถ้าจับตัวผู้ต้องหาฆ่าคนตายปูเน่าได้ตอนนี้..จะเท่ากับหมัดน๊อคสุดท้ายเกิดขึ้นทันที

หมดหนทางจึงสั่งการให้แก๊งค์สู้แล้วรวย นำฝูงแมงเม่าชั่วอันเหลือน้อยนิดออกอาละวาด..วันที่ 22 ก.พ. แก๊งค์อันธพาลแดงตัวเอ้ จะซ่องสุมหัวจัดงาน มวลมหาประชาชนตาสว่าง ราว 80 คน , วันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. จัดงาน นปช.ลั่นกลองรบ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โคราช ประมาณ 4,000 คน..ไม่หรอก..มันไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอกว่า "การป้องกันที่ดีที่สุดคือการบุกก่อน" ใครจะจองกฐิน 2 งานนี้ยกมือขึ้น !! งานแรก 22 ก.พ. ได้ข่าวว่าพ่อครัวใจดีเขาจะชวนกันร้องเพลงใหม่ “ กราดข้าวโพดเข้าไป อย่าใด้ถอย มวลมหาเชพกระทะเหล็ก “ ส่วนงานหลัง 23 ก.พ. “ เอ้า..มวลมหา กปปส.ชาวนาโคราชและใกล้เคียง เร่งระดมจัดกองทัพรถไถ รถอีแต๋น และกำลังไปล้อมที่จัดงานโดยรอบด่วน แล้วเอาใบประทวนไปให้แกนนำนกแสก และแก๊งค์ทุยแดงกินแทนข้าว เพราะพวกมันเคยบอกให้ชาวนากินใบประทวนแทนเงินจำนำข้าว กปปส.แถวนั้นต้องไปจับตัวพวกแกนนำทุยแดงพวกนี้ได้ แล้วเอาใบประทวนหยัดใส่ปากพวกมันให้อิ่มแปล้ไปเลย...

งานนี้ข่าวว่าเชพกระทะเหล็ก เขาจะเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ใช้สตั้นแมนแสดงแทน เขาแจกกันจริง จริง..แจกกันให้เห็น..ทำกันเป็น เป็น..ไปบริการโยนข้าวโพดวิถีโค้งระยะไกลใส่เวทีปราศรัยด้วยนะ..เทศกาลแจกข้าวตอกดอกไม้ตามไปแล้วพี่น้อง !!...

แหย่ให้แย้แดง พัลลภ และแก๊งค์สู้แล้วรวย ตู่ เต้น กีร์ นกแสก เหวง โกตี๋ แรมโบ้ ฯลฯ ออกมาจากรูห้างแถวลาดพร้าวแล้วตูม เปรี้ยง..ว้อๆ ๆ แถวนั้นโรงพยาบาลอะไรนะ !!

ข่มให้มิด ปิดมันทุกทาง..จำนวนไม่สำคัญเท่าประสิทธิภาพ และความล้ำลึกของกลศึก

นอกกระจอก หรือจะมาหาญสู้พญาอินทรีย์ !!!

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthaiดูเพิ่มเติม