สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
เรื่องของบางศาสตร์ที่ลึกลับ ที่ยังอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้นั้น ผู้เฒ่าผู้แก่มักบอกเด็กๆว่า..”ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะโว้ย”
หมอดูบางทีคู่หมอเดา หมอดูบางทีผสมศาสตร์แห่งสถิติ หมอดูบางทีผสมร่างองค์ทรงเจ้า ฯลฯ ที่แน่ๆ หมอดูเป็นคู่ซี้ของนักการเมืองขี้โกงมาตลอด
ไสยศาสตร์บางทีถูกนักเล่นกลลวงหลอก ไสยศาสตร์บางทีเป็นเรื่องจริง ที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่ไสยศาสตร์ก็เป็นคู่ซี้กับนักการเมืองขี้โกงเช่นกัน
อินเดียโบราณก่อนพุทธกาล ฤษี-โยคี-ลัทธิเชน-ลัทธิอื่นๆ หากใครเจริญธรรมจนถึงขั้นได้ “อภิญญาหก” ก็จะมีฤทธาเป็นคนหูทิพย์-ตาทิพย์-กายทิพย์ ฯลฯ แสดงให้ผู้คนประจักษ์ได้ด้วยตา
ผู้รู้ทางพุทธศาสนาระบุว่า พระพุทธเจ้าก็เคยแสดงฤทธาให้คนเห็นกับตามาแล้ว แต่พระองค์ได้ทรงสอนว่า “อภิญญาหก”หรือฤทธาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้ ธรรมแห่งปัญญาต่างหากที่ทำให้รู้ต้นเหตุแห่งทุกข์ และต้องแก้ต้นเหตุแห่งทุกข์ให้หมดไป..จึงจะพ้นทุกข์
ดังนั้น หากผู้ปฏิบัติธรรมคนใด ได้อภิญญาหกจนมีฤทธา แต่หลงในคำเยินยอจากการแสดงฤทธาให้ฝูงชนเห็น และงมงายอยู่กับอภิญญาหก ก็จะไปไม่ถึงธรรมแห่งการหลุดพ้นแน่นอน
ยิ่งใช้ฤทธาผิดๆไปแสวงหาผลประโยชน์ ไม่นานอภิญญาหกและฤทธาจะหดหาย สุดท้าย..กลายเป็นนักต้มตุ๋นไปโดยปริยาย
ที่สำคัญ..ธรรมแห่งพุทธสอนว่า เวรกรรมมีจริง ทุกคนหนีไม่พ้นเวรกรรมที่ก่อไว้ ดังนั้น ผู้ที่มีอภิญญาหกทั้งหลายที่ใช้ฤทธาผิดๆ อ้างว่าตัดกรรมคนชั่วให้หมดไปได้นั้น-โกหก อีกทั้งเป็นตัวการทำให้ผู้คนไม่พ้นทุกข์ อันเท่ากับสร้างเวรกรรมเพิ่มให้ตนเองและผู้อื่นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม..ในพระไตรปิฏกมีการระบุว่า..อภิญาหกมีจริง แต่ท่านที่เชื่อหรืองมงาย กับหนทางที่ไม่หลุดพ้นนี้พึงระวังให้จงหนัก กับพวกกำมะลอที่ไร้อภิญาหก ซึ่งชำนาญการต้มตุ๋นผู้คนจนหมดตัวด้วยล่ะ
ส่วนเรื่องภูติ-ผี-ปีศาจ-เทวดา-นางฟ้า-ยมบาลผู้ยิ่งใหญ่ในนรก-พระศิวะผู้ยิ่งใหญ่ ณ แดนสวรรค์ ฯลฯ จะมีจริงหรือไม่นั้น มุมมองผู้คนในโลกใบนี้แตกต่างกัน เพราะแต่ละคนอยู่ในสภาพแวดที่ต่างกัน อีกทั้งเผชิญเรื่องราวในชีวิตที่ต่างกัน เชื่อหรือไม่เชื่อ-เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง-เลือกที่จะเชื่อในบางเรื่อง-เชื่อแบบเต็มร้อย ฯลฯ ต้องถือเป็นสิทธิของส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม..ครูบาอาจารย์สอนว่า จะเชื่อหรือไม่จงค้นหาต่อไป เชื่อหรือไม่”จงบูชา” เพราะการบูชาด้วยกายวาจาใจ มิได้นำความเสียหายมาสู่ตน แต่การ”ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”นั้น ถือเป็นหนึ่งในทางออกของความแตกต่างได้
แต่ที่ผู้คนรู้และสัมผัสได้ว่า “นรก”กับ”สวรรค์”มีจริงๆ และอยู่ไกล้แค่เอื้อมนี่เอง เพราะ“สวรรค์อยู่ในอก-นรกอยู่ในใจ” หรืออยู่ในตัวของเราเองนี่แหละ
ส่วนเรื่องอื่นๆคงต้องถามผู้รู้อย่าง”หลวงปู่พุทธอิสระ” ซึ่งท่านกำลังคร่ำเคร่งกับการขับไล่ รัฐบาลทรราชอยู่เวทีแจ้งวัฒนะโน่น
อ้อ..หากจะพบท่านเพื่อถามไถ่เรื่องนี้ ต้องนัดหมาย”หลวงปู่พุทธอิสระ”ล่วงหน้านะ ส่วนท่านจะให้พบหรือไปลุ้นเอาเองก็แล้วกัน เวลาไปหาท่านต้องระวัง”หมา”ด้วยล่ะ เพราะแถวถนนแจ้งวัฒนะมี“หมาลอบกัด”พันธุ์ชั่วๆ ที่ชอบใช้ปืนเอ็ม 79 แอบยิงใส่เวทีเป็นประจำ
ผีมีจริงหรือไม่-ผมว่ามีจริง แต่ผมยังไม่เคยเห็นผีจะๆเต็มสองตา ผีหลอกน่ากลัวแค่ไหน-ผมจึงไม่รู้ แต่ผมว่เชื่อา..คนหลอกร้ายกว่าผีหลอกนะ...
โดยเฉพาะคนสร้างหนังนี่แหละ ผีเหี้ยนๆหลอกดุๆยอมแพ้กันหมด เพราะคนสร้างหนังทำให้ผีเป็นอะไรก็ได้ เป็นผีที่น่ากลัวเกินจริง-จนขนหัวลุกบ้าง เป็นผีเด็กน่ารัก-น่าชัง-น่าเอ็นดู-น่ากอด-น่าโกยบ้าง เป็น”ผีเชิญยิ้ม”ตลกโปกฮา จนคนดูหัวเราะจนฉี่แทบราด ฯลฯ
คนสร้างหนังใช้ผีเปลืองที่สุด แถมใช้แรงงานสารพัดผีแสดงหนังฟรีๆอีกด้วย จนทำเงินเข้ากระเป๋าให้กับวงการหนังไทยรวยเละมาแล้ว แค่”ผีแม่นากพระโขนง”เวอร์ชั่นใหม่ อย่าง”พ่อมากพระโขนง”เรื่องเดียว ก็โกยเงินให้ผู้สร้าง-ผู้กำกับกว่า 500 ล้านบาท!
แต่ที่แน่ๆ..อย่าลืมนะว่า ธรรมแห่งพุทธสอนว่า ใครทำกรรมชั่ว-กรรมชั่วจะต้องคืนสนอง นั่นคือ “ใครทำดีได้ดี-ใครทำชั่วได้ชั่ว” นั่นเอง
ที่สำคัญ..ทุกกรรมดีกรรมชั่วต้องพิเคราะห์ให้เข้าถึง ต้นสายและปลายเหตุอย่างถ่องแท้ครบถ้วน เพราะนั่นคือสัจจธรรมแท้จริงที่ว่า “มีเหตุนี้-จึง-เกิดเหตุนี้” หรือ “มีเรื่องนี้-จึง-เกิดเรื่องนี้”
แต่มหาโจรเหลี่ยมกับบรรดาขี้ข้าไม่เชื่อในเวรกรรม ไม่เชื่อธรรมแห่ง “ทำดีได้ดี-ทำชั่วได้ชั่ว” เพราะเหลี่ยมกระทำตรงกันข้ามกับพระพุทธเจ้าสอน นั่นคือ “ทำดีได้ดีมีที่ไหน-ทำชั่วได้ดีมีถมไป”เป็นสรณะ
แน่นอน..การที่”คนชั่วทำชั่วแล้วได้ดีมีให้เห็น”มากมายเช่นนี้ อาจทำให้ชาวพุทธบางส่วนหวั่นไหวต่อคำสอนบ้าง เพราะคนจะทำแต่คุณงามความดี หาเลี้ยงครอบครัวอย่างสุจริต หรือเป็นข้าราชการในพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่รับใช้ประชาชนอย่างเต็มใจจริงใจ ไม่คอร์รัปชั่นโกงชาติบ้านเมือง ทำดีเช่นนี้แต่บางคนกลับไม่ได้ผลดีตอบแทน เพราะถูกนักการเมืองชั่วกลั่นแกล้งรังแกนานาประการตลอด
มนุษย์-เลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่มนุษย์เลือกอยู่-เลือกตายอย่างมีคุณค่า เพื่อปกป้องรักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์..ได้นี่นา..!
ขณะเดียวกัน ก็มีมนุษย์บางกลุ่มเลือกเกิดไม่ได้เช่นกัน แต่เห็นแก่เงินและยศศักดิ์ จึงยอมขายจิตวิญญาณยอมตนเป็นขี้ข้าเหลี่ยม จึงร่วมกับเหลี่ยมกระทำชั่วสารพัด ทำตัวเป็นโจรการเมืองใช้เงินซื้อเสียง เข้าไปยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือ และใช้กลไกรัฐโกงกินชาติบ้านเมือง บังอาจเหิมเกริมจนถึงขั้นจะโค่นล้มในหลวงของปวงชนชาวไทยอีกด้วย
การกระทำอันโคตรชั่วของเหลี่ยมกับพวก ทำให้ชาติไทยจมปลักสู่วิกฤติในทุกมิติจนทุกวันนี้..!
เหตุชั่วๆทั้งหมดนี้ เกิดพราะเหลี่ยมคิดและทำผิดมหันต์ ด้วยโลภมากจนไม่รู้จักคำว่าพอเพียง ทั้งๆที่ร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว แถมช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจล้นฟ้า แทนที่เหลี่ยมจะใช้อำนาจทำดีให้ชาติบ้านเมือง เพื่อเป็นรัฐบุรุษและเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล
เหลี่ยมกลับทำตนเป็นมหาโจรการเมือง ใช้อำนาจนายกฯก่อกรรมทำชั่วสารพัด หาประโยชน์ใส่ตัวเหลี่ยมกับวงศ์ตระกูลและพวกขี้ข้า ด้วยการโกงชาติกันอย่างมโหฬารตลอดเวลา
เรียกว่า..ความชั่วของรัฐบาลมหาโจรเหลี่ยม ลงรายละเอียดให้ครบถ้วนไม่ไหวแน่ แต่ที่แน่ๆ..คือ..เหลี่ยมเป็นนายกฯแค่ครั้งเดียว โกงชาติจนมีเงินซุกไว้ในต่างแดนหลายแสนล้านบาทเลยล่ะ
แถมเหลี่ยมยังขายชาติอีกด้วย โดยได้ยกแผ่นดินไทยให้กับเขมรฮุนเซ็น เพราะเหลี่ยมหวังจะฮุบบ่อน้ำมันใต้ทะเลไทย-กัมพูชานั่นเอง!
ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดจนคนไทยส่วนใหญ่ทนไม่ไหว นั่นคือ นายกรัฐมนตรีคนแรกแห่งตระกูล”โกงจนชิน” แอบหนุนขี้ข้า”แดงล้มเจ้า”ทั้งหลาย ให้ปฏิบัติการโค่นล้มพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงธรรม ทั้งลับและเปิดเผยอย่างต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้
กรรมโคตรชั่วที่เหลี่ยมทำกับ ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-คนไทย จึงเป็นเวรกรรมที่หนีไม่พ้นและกำลังตามสนองชีวิตเหลี่ยมอยู่ในขณะนี้ไงล่ะครับ
หลวงตามหาบัวเคยบอกว่า “..เหลี่ยมเป็นยิ่งกว่าเทวฑัต เงินมันก็จะหมด ชีวิตมันก็รักษาไว้ไม่ได้..”
ร่ายยาวปูพื้นให้พอสังเขป ฉบับหน้ามาดูกันว่า..เหลี่ยมใช้หมอดุ-เจ้าแม่-พระอลัชชี-ใช้ไสยศาสตร์อะไรบ้าง เพื่อตัดกรรม-ต่อชีวิต โดยหวังจะก่อกรรมโคตรชั่วกับชาติไทยต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อมีเงินโกงชาติมหาศาล เหลี่ยมจึงได้ว่าจ้างหมอดู-เจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างชาติ ฯลฯ มาร่วมด้วยช่วยกันให้เหลี่ยมได้ปล้นชาติไทย แบบผูกขาดไปชั่วชีวิตกันเลยนะจะบอกให้
ฉบับหน้าค่อยลงรายละเอียด..ฉบับนี้หน้ากระดาษหมดแล้วครับ...
ตอนที่ 2
กรรม(ชั่ว)ใดใครก่อ-กรรม(ชั่ว)นั้นตามสนอง!
เมื่อพูดถึง”เวรกรรม”มนุษย์ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ได้พูดถึงถ้อยคำ”หลวงตาบัว”ว่า
“..สนธิ..เชื่อหลวงตาเถอะ..ไม่มีใครหนีกรรมพ้นหรอก..”
”พี่สนธิ”ยังบอกว่า ที่โดนรุมยิงด้วยปืนเอ็ม16 อาร์ก้า เอ็ม 79 กว่า 200 นัดนั้น หลวงตาบัวระบุว่า”..มันเป็นกรรมเก่าของสนธิ..”
ผมถามต่อด้วยอยากรู้ว่า ทันทีที่เสียงปืนดัง..พี่สนธิคิดถึงอะไร..?
“คิดถึงหลวงตาบัว หลวงพ่อญาอาจารย์พี่ที่สิ้นไปแล้ว และพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ..มหัศจรรย์มาก..ตอนนั้นเห็นแต่กระสุนปืนวิ่งวนเป็นวงกลมอยู่ในรถ..”
เหตุการณ์ครั้งนั้น..ผู้คนเชื่อว่า สนธิลิ้มรอดตายด้วยครูบาอาจารย์ และ”ในหลวง”คุ้มครอง รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บูชาไว้บนคอ ร่วมด้วยช่วยกันปกป้องชีวิตพี่สนธิไว้
พี่สนธิยังเล่าว่า..ค่ำคืนก่อนเกิดเหตุร้ายนี้ หลวงตาบัวได้นั่ง”บริกรรมฯ”ตลอดคืนยันรุ่ง ทันทีที่มีข่าวด่วนสนธิลิ้มโดนยิง ยังไม่รู้เป็นหรือตาย ลูกศิษย์ก็วิ่งมารายงานทันที
แต่หลวงตาบัวกลับบอกกับลูกศิษย์คนนั้นว่า “..อืม..รู้แล้ว..สนธิเขาปลอดภัยแล้วล่ะ..”
พี่สนธิชี้ชี้รอยกระสุนปืนนัดหนึ่งบนหัว ก่อนจะพูดในสิ่งที่หลวงตาฯบอกไว้ว่า..
“..รอยบุ๋มบนหัวจะเตือนให้สนธิรู้ว่า..นี่คือบาดแผลจากกรรมเก่าไงล่ะ..”
รองผู้ว่าฯกทม.”มาลินี”ที่ดูแลการสาธารณสุขตอนนั้น บอกกับผมที่โรงพยาบาลวชิระว่า
“..พี่เธอต้องมีอะไรดีๆ คุ้มครองแน่ๆ กระสุนปืนที่ยิงเข้าตรงหัวใจ-ไม่เข้า (ผมเห็นกับตาว่าหนังตรงหน้าอกพี่สนธิไหม้และยับยู่เป็นชั้นๆ) แต่นัดที่เข้าหัวนี่สิ..ทำไมมาหยุดเอาดื้อๆ ห่างสมองเพียงแค่ 3 มิลเท่า
นั้น หากกระสุนนัดนี้เลยไปโดนสมอง เฮ้อ..ถึงพี่เธอจะรอดชีวิต ก็คงมีปัญหาทางสมองแน่นอน มหัศจรรย์นะ..กระสุนที่ทำให้กะโหลกยุบ ทำไมมาหยุดเอาดื้อๆ แบบนี้..”
ไม่มีมนุษย์ธรรมดาคนไหน ตอบโจทย์มหัศจรรย์แบบนี้ได้ ทุกคนจึงโยนไปที่”สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จริง” ซึ่งเป็น”คำตอบ”ที่ไม่ใครกล้าเถียงเสียด้วยสิ..
เหลี่ยมกับเมียเพิงหมาแหงน รวมทั้งพี่น้องตระกูล”โกงจนชิน”บางคน เชื่อโชคลาง-หมอดู-อวิชา-มนต์ดำ-คุณไสย-ไสยศาสตร์ทุกแขนง ชนิดเข้ากระดูกดำเลยล่ะ
เหลี่ยมเคยพูดถึงความเชื่อของเขาว่า ช่วงแรกไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงเท่าใดนัก กลับจากต่างประเทศใหม่ๆ มีหมอดูทักว่าดวงไม่ค่อยดี หลังจากนั้นสถานการณ์ของเขาก็ย่ำแย่ ทั้งการงานและการเงิน จากนั้นทุก
ปีเขาจะต้องให้หมอดู ตรวจดวงของเขาทุกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม..เหลี่ยมได้ย้ำความเชื่อเรื่อง”หมอดู”อีกครั้ง ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า
“แม้ผมจะทำงานไฮเทค แต่ผมคิดว่า..ดวงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นสิ่งที่น่าคิด มันเชื่อถือได้พอสมควรเพราะในช่วงชีวิตที่ผมเคยผิดพลาดหรือล้มเหลว เป็นช่วงที่ผมไปตรวจดวงกับหมอดู ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หมอดูก็บอกได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับช่วงที่ผมโชคดี เขาก็บอกออกมาได้อย่างชัดเจนอีกเช่นกัน”
เหลี่ยมจึงยึดถือ”หมอดู” เป็นหนึ่งในคัมภีร์ความเชื่อของชีวิต ทำให้หมอดูหลายคนเข้ามาพัวพันกับชีวิตเหลี่ยม
“ร.ต.สัมฤทธิ์ เกลี้ยงเกลา”คือ“หมอดู” ที่ทำนายชะตาชีวิตเหลี่ยมคราครั้งเป็นแค่”ร.ต.ท.” และก่อนที่เหลี่ยมจะลงเล่นการเมืองไว้ว่า
“..วันหนึ่งจะกลายเป็นเศรษฐี แต่ไม่ควรเล่นการเมือง เพราะจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในชีวิต..”
”หมอดูสัมฤทธิ์”ลืมดูเหลี่ยมว่า คนๆนี้สันดานใฝ่สูงไม่รู้จักพอ ดังนั้น เมื่อรวยมหาศาลแล้ว..มันยังอยากรวยชนิดไม่รู้จักพอ แถมไม่สนใจวิธีโกยเงินว่า-ถูกหรือผิด-ดีหรือชั่วอีกด้วย
กรรมใหญ่ที่ก่อ..คือ..รวยจากการทำธุรกิจ”ไม่สะอาด” และค้ากำไรเกินควรในธุรกิจคมนาคม ก่อนจะสร้างกรรมโคตรใหญ่ให้ตนเอง นั่นคือ เข้าสู่การเมืองเพื่อ”รวยทางลัด”!
โดยเริ่มสร้าง”ตำนานกำมะลอ”ว่า “เหลี่ยม”คือ”พระเจ้าตากสิน” ดูสิ..ชื่อภาษาอังกฤษของเหลี่ยม จึงตรงกับ”พระเจ้าตากสิน”เป๊ะเลย
นักคิดนักเขียน-นักวิชาการ-นักเคลื่อนไหว-สื่อมวลชน ฯลฯ ทั้งอดีตคอมมิวนิสต์ซ้ายจัด และพวกขี้ข้าเห็นแก่เงิน พยายามจะเปลี่ยนเหลี่ยมจากนายทุนสามานย์ ให้กลายเป็น”พระเจ้าตากสิน”กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง เพื่อ”ล้างแค้น”ให้กับ”พระเจ้าตากสิน”!
ตำนานกำมะลอยังโยงถึง”เพิงหมาแหงน”เมียเหลี่ยมว่า ตระกูลทางแม่คุณเธอนั้น“ณ ป้อมเพชรมหากาฬ” ซึ่งตรงกับภริยารัฐบุรุษท่านหนึ่ง ที่เสียชีวิต ณ ประเทศฝรั่งเศส
กลุ่มคอมฯซ้ายจัด..จึงเชิดให้เหลี่ยมเป็น”ผู้สานต่อ” โดยสร้างเรื่องว่า..เหลี่ยมคนนี้แหละ จะทำงานที่คาค้างของรัฐบุรุษท่านนั้น..ให้สำเร็จในยุคนี้อีกด้วย
พวกอดีตคอมฯซ้ายจัดเหล่านี้ ได้ถือโอกาสนี้แก้ตัวการถูกเปิดโปงว่า-ขายตัว โดยอ้าง”ลัทธิมาร์กซ”แบบมั่วซั่วว่า
ที่จำยอมเป็นขี้ข้าทุนสามานย์เหลี่ยม เพื่อใช้เงินมหาศาลของเหลี่ยม ซื้อเสียงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐมาไว้ในกำมือ ไว้สำหรับใช้โค่นล้ม”ระบอบล้มศักดินา”ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยโค่นล้มระบอบทุนนิยมสามานย์เหลี่ยมทีหลังไงล่ะ
งานนี้จึงมีการอ้างว่า “คอมฯ หลอกใช้เหลี่ยม”และ”เหลี่ยมก็หลอกใช้คอมฯ” แต่สิ่งที่ทั้งคู่เห็นตรงกัน คือ ต้องช่วยกัน”ล้มเจ้า”แล้วสร้างรัฐไทยใหม่นั่นเอง
เงินชั่วๆของเหลี่ยมนี้ หลวงตาบัวเคยบอก”สนธิลิ้ม”ว่า “เงินชั่วร้ายของเหลี่ยม คือ ไฟบัลลัยกัณฑ์ ใครไปรับเข้า..จะถูกไฟนี้เผาผลาญ..ชีวิตมีแต่หมกไหม้ล่มจม..”
ดังนั้น เงินและยศศักดิ์ชั่วร้าย จึงได้แปรเปลี่ยนพวกเคยนิยม”คอมมิวนิสต์” ให้กลายพันธุ์เป็นพวกนิยม”คอมมิชชั่น”แทนเรียบวุธเลย
งานตั้งพรรคการเมือง..เหลี่ยมจงใจใช้วันที่“14 กรกฎาคม” ซึ่งเป็น”วันล้มเจ้า”หรือ”วันปฏิวัติฝรั่งเศส” ทั้งๆที่มีคนตั้งพรรคบางคนค้านแล้ว แต่เหลี่ยมไม่แยแสสนใจ แถมยังเอาพวกล้มเจ้าทั้งหลายมาอยู่ข้างตัวอีกด้วย
ส่วนเส้นทางยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือ เหลี่ยมใช้ 4 แผนหลักดังนี้
หนึ่ง-สร้างภาพว่า”กูรวยแล้วไม่โกง” สอง-สร้างนโยบาย”ประชานิยมพวกกูโกงได้” สาม-ใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้งทุกหย่อมหญ้า สี่-หาเสียงและบริหารชาติโกหกหลอกลวงแบบหน้าด้านๆ
แต่แผนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้เหลี่ยมเป็นใหญ่ทางการเมืองได้ คือ ใช้เงินสกปรกซื้อ ส.ส. และซื้อเสียงการเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐและใช้กลไกรัฐโกงชาตินั่นเอง
ระบบการเลือกตั้งชั่วๆที่ใช้เงินซื้อเสียงได้ ทำให้เหลี่ยมได้เป็นนายกฯคนที่ 23 ของชาติไทย
เวลาเพียง 4-5 ปีได้ทำให้เหลี่ยม เปลี่ยนจากเศรษฐีหมื่นล้านเป็นหลายแสนล้าน!
ห้วงนี้เหลี่ยมจึงทำแต่เรื่องโคตรชั่ว ทั้งปล้นชาวนา-ปล้นประชาชน-ปล้นชาติ แถมปล้นอำนาจของพระสังฆราช ไปประเคนให้พระพรรคพวกตนและเมีย อีกทั้งยังบังอาจให้พลพรรคปฏิบัติการ ลับและเปิด
เผยในการโค่นล้ม พระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม ที่คนไทยส่วนใหญ่รักยิ่งชีวิตอีกด้วย
กรรมโคตรชั่วอันใหญ่หลวงนี้ ”โหราจารย์”หน้าไหนก็”ตัดกรรม”ให้ไม่ได้แน่นอน!
จน“หมอดูสัมฤทธิ์”ได้ออกมาเตือน บุรุษเหลี่ยมที่ชั่วกว่า”เทวทัต”อีกครั้งว่า
“..ขอให้เหลี่ยมเป็นนายกฯแค่ 4 ปีเท่านั้น จะเป็นการดีที่สุดสำหรับชีวิตของเหลี่ยม..”
แต่”หมอดูสัมฤทธิ์”ที่เหลี่ยมชมว่า“แม่นยำราวตาเห็น” ไม่อาจหยุดยั้งความมักใหญ่ใฝ่สูงอันไม่รู้จักพอของเหลี่ยมได้เสียแล้ว
เหลี่ยม-ยังคงทำกรรมโคตรชั่วไม่หยุดยั้ง เหลี่ยม-ยังพาตนเองและวงศ์ตระกูล เดินหน้าสู่”นรกขุมลึกที่สุด”อย่างต่อเนื่อง โดยมี”กรรมใหญ่หลวง”ตามไล่ล่า หรือกำลัง”ตามสนอง”อย่างกระชั้นชิด..
ตอนที่ 3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น