ภาพบ่อน้ำมัน-บ่อก๊าซที่คนไทยไม่เคยเห็น

ภาพบ่อน้ำมันบ่อก๊าซที่คนไทยไม่เคยเห็น กระทรวงก็ไม่ให้ดู แต่กระทรวงพลังงานให้คนมาขอสัมปทานดูในการแจกสัมปทานรอบที่ 20 ผมใช้คำว่าแจกเพราะสัมปทานบ่อน้ำมันไทยจะมีมูลค่ากี่แสนล้านบาทก็ไม่มีการประมูลครับ ซึ่งขัดกฎบัตร Natural Resource Charter ใครมาขอก็เขียนโครการแล้วก็ให้กันไป ทาง natural resource charter เขียนไว้ชัดว่าต้องทำการประมูลให้โปร่งใส

ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมรับรู้รับฟังการประมูล จะช่วยลดโ...อกาสการกระทำทุจจริตการสมคบคิดระหว่างข้าราชการและนักธุรกิจได้ แต่ของไทยกระทรวงบอกประชาชนอย่ามายุ่ง ผมว่ากระทรวงคงลืมไปว่าประชาชนคือเจ้าของบ่อน้ำมันตัวจริงย่อมมีสิทธิอันชอบธรรมในการตรวจสอบการดำเนินงานใดๆของกระทรวง

ไทยแจกบ่อน้ำมันไป 20 รอบแล้ว คนไทยเจ้าของบ่อน้ำมันตัวจริงไม่รู้รายละเอียดกันเลย แถมปลัดกระทรวง+อธิบดีไปรับเงินเดือนโบนัสจากผู้ขุดเจาะน้ำมัน ไม่ต่างสมภารกับพระลูกวัดกินไก่วัดเสียเอง ผมว่าชาวบ้านคงต้องรวมตัวกันจับสมภารสึกซะแล้วละครับงานนี้ 

ถ้าจะเสพข่าวน้ำมันขอให้ดูข้อมูลที่ถูกต้อง..ข้อมูลที่นำมาคือของหม่อมหลวงกร
ผู้ติตามเรื่องประโยชน์ผู้บริโภคโดยตรง..และได้เปิดเผยและติดตามเรื่องนี้ตลอดมา
มหากาพย์การปล้นก๊าซหุงต้มของคนไทย? ภาค 2 (รับประกันความเลวร้ายกว่า ภาค 1)
หลังจากได้ทราบความชั่วร้าย ว่าปิโตรเคมีของปตท.คือตัวการทำก๊าซหุงต้มขาดตลาด แถมซื้อราคาพิเศษเพียง 16-17 บาท/กก.ซึ่งต่ำกว่าราคาที่ขายให้ภาคยานยนต์และครัวเรือน แต่กระทรวงฯยังกล้า...พิมพ์เอกสารเท็จแจ้งว่าปิโตรเคมีซื้อราคา 24 บาท/กก. (หลักฐานนี้จะนำไปเปิดกันสดๆที่เวทีครับ) และที่เลวร้ายที่สุดคือ ปิโตรเคมีของปตท.จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพียง 1 บาท ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นกระทรวงฯบังคับให้จ่ายมากถึง 12.55 บาท เงินที่ปิโตรเคมีจ่ายขาดจึงสร้างความวิบัติให้กองทุนน้ำมันแบบป่นปี้ ปีละกว่า 3 หมื่นล้านบาท ก็มาเก็บจากผู้ใช้น้ำมันเบนซิน 9 บาท และดีเซล 4 บาท/ลิตรนั่นเอง

ยังมีอีกสาเหตุที่เลวร้ายกว่า ก็คือ ประเทศไทยมีก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตก๊าซหุงต้มมากเกินกว่าความต้องการของคนไทย จนทำให้ไทยติดผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติติดอันดับ 24 ของโลกจาก 200 กว่าประเทศ แต่ก๊าซธรรมชาติเหล่านั้นกลับไม่สามารถเอามาผลิตก๊าซหุงต้มได้ เพราะปตท.เป็นผู้ผูกขาดก๊าซธรรมชาติ ไม่ยอมสร้างโรงแยกก๊าซเพิ่มทั้งที่รู้ว่าปิโตรเคมีลูกของตนเองใช้ก๊าซเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้น เพื่อกำจัดก๊าซหุงต้มส่วนที่ไม่ได้แยกอีกกว่า 2 ล้านตัน ปตท.จึงปล่อยให้ปนไปกับก๊าซมีเทนเพื่อไปผลิตไฟฟ้า ซึ่งไม่ต่างจากการเอาไม้สักที่มีค่าไปปนกับเศษไม้แล้วเอาไปทำฟืน!!! (ดูภาพประกอบ)

ขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น เหมือนเรามีข้าวเปลือกเต็มยุ้งฉาง แต่มีโรงสีไม่พอ(พ่อค้าจงใจไม่สร้างโรงสีเพื่อควบคุมปริมาณข้าวสารให้น้อยกว่าความต้องการเพื่อหาเหตุขึ้นราคา) ข้าวสารจึงขาดตลาด ต้องนำเข้าข้าวสารมาจากต่างประเทศ ก็ถือโอกาสขึ้นราคาข้าวสารทั้งหมดให้เป็นราคานำเข้าเลย!!! ชัดไม๊ครับ กลยุทธการฉ้อฉล!!!

บางท่านอาจส่งสัยว่า เหตุใดจึงไม่มีบริษัทอื่นสร้างโรงแยกก๊าซ ของเรียนว่า ก๊าซธรรมชาติต้องขนส่งทางท่อ ซึ่งปตท.ได้ยึดท่อก๊าซที่สร้างจากภาษีของประชาชนไปเมื่อตอนแปรรูป ปตท.จึงเป็นผู้เดียวที่สามารถซื้อก๊าซจากปากหลุมผลิตได้ ก๊าซของคนไทย 60 ล้านคนจึงตกอยู่ในมือ ปตท.แต่เพียงผู้เดียว จึงไม่มีผู้ใดสามารถสร้างโรงแยกก๊าซได้นอกจากปตท.ครับ

มีคนถามว่า โรงแยกก๊าซแพงหรือไม่ ก็ขอตอบว่า ตอนแปรรูป ปตท. มีการตีราคาโรงแยก๊าซ 4 โรงที่สร้างจากภาษีประชาชนเพียง 3.2 พันล้านบาท ตกโรงละไม่ถึงพันล้าน!!! ปตท.โรงแยกได้ไปถูกๆ เอาไปหากินจนร่ำรวย และวันนี้ก็ลืมบุญคุณคนไทยเสียแล้ว!!!

สรุปง่ายๆว่า การขาดแคลนก๊าซหุงต้มเกิดจากการบริหารจัดการของปตท.ทั้งสิ้น ทั้งการให้บริษัทลูกปตท.ใช้เยอะๆราคาถูกๆ และ แยกก๊าซน้อยกว่าความต้องการทั้งที่มีวัตถุดิบมากเพียงพอ แล้วผลักความเดือดร้อนให้ประชาชนทั้งชาติรับไปเต็มๆ ทั้งหมดนี้คือการดำเนินการที่มีการวางแผนเป็นระบบ ภายใต้การรู้เห็นของกระทรวงพลังงาน เพื่อนำไปสู่การขึ้นราคาก๊าซหุงต้มที่ผลิตได้ในประเทศให้เป็นราคาโลกเพื่อสนองความโลภส่วนตน เพราะเงินที่ได้ไม่ใช่เข้าหลวงครับ แต่เข้ากระเป๋าปตท.และข้าราชการกระทรวงพลังงานที่นั่งเป็นกรรมการกลุ่มปตท.นั่นเอง???

เพราะขุดน้ำมันกันมาเกือบ 40ปี จนสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศ แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่อยู่ดีกินดีขึ้นสักที