ตะกวดจังหวัดเชียงราย-พะเยาห้ามใช้ธงชาติไทย แต่ใช้ธงแดงคอมมิวนิสต์แทน
"ประยุทธ์" ห่วงคนร้ายยิงอาวุธวิถีโค้ง ส่งทหารคุมเข้มตึกสูง-ทางด่วน-โทลล์เวย์ เพิ่มจุดตรวจ 176 จุด ป้องเหตุร้าย พร้อมส่งกำลังพลลาดตระเวนบ้านพัก "ป.ป.ช."
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพบกสำรองภายใน กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวัน
โดยในที่ประชุมได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยกำชับกำลังพลที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ได้เข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยของตัวเองหลังจากที่มีการก่อเหตุมากขึ้น โดยได้มีการสั่งการให้ผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกไปตรวจเยี่ยมกำลังพลตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีกำลังพลปฏิบัติงาน
วันเดียวกัน ที่แยกวิสุทธิกษัตริย์ พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ. ) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังทหาร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำหน้าที่ของชุดปฏิบัติการมวลชน และจุดตรวจความมั่นคงต่างๆ อาทิ บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า กระทรวงมหาดไทย แยกบางขุนพรหม โดยพล.ต.วราห์ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ทางกองทัพเน้นดูแลพื้นที่ผู้ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. โดยปัจจุบันได้เพิ่มจุดตรวจและ จุดเฝ้าระวังเป็น 176 จุด ใช้กำลังพล 56 กองร้อย โดยเน้นพื้นที่รอบการชุมนุม ทั้งวงนอก และวงใน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามีการก่อเหตุบ่อยครั้ง
“ผบ.ทบ.มีความเป็นห่วงและไม่สบายใจเรื่องการใช้อาวุธวิถีโค้ง ท่านไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอยบริเวณหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ บริเวณแยกราชประสงค์จึงสั่งเพิ่มจุดตรวจทหาร เพื่อป้องปรามผู้ก่อเหตุ โดยจะให้สารวัตรทหาร (สห.) และหัวหน้าชุดพกอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองได้ ส่วนพลทหารจะมีเพียงเสื้อเกาะ พร้อมทั้งให้ประสานไปยังสถานีตำรวจ เพื่อตั้งจุดตรวจยานพาหนะที่ต้องสงสัยที่จะเข้ามาก่อความรุนแรง รวมถึงการตรวจค้นอาวุธสงคราม
ซึ่งทาง ผบ.ทบ. กำชับให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่อย่างรัดกุมและรอบคอบ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชน พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยของตัวเอง เพราะเกรงว่ากำลังพลจะตกเป็นเป้า และให้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนบนทางด่วน โทลล์เวย์
เพราะท่านรู้สึกหนักใจและตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อเหตุใช้วิธีขับรถไป ยิงไป ส่วนตึกสูงในพื้นที่ชุมนุมที่เสี่ยงต่อการก่อเหตุ ให้จัดเจ้าหน้าที่ประสานกับเจ้าของตึก เพื่อเข้าไปดูแล และติดต่อประสานเรื่องกล้องวงจรปิด โดยจะส่งทหารขึ้นไปประจำในพื้นที่ ส่วนการอารักขาบุคคลสำคัญเราได้จัดชุดลาดตระเวนไปยังบ้านพักของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้เกิดความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เพราะคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่สบายใจ” พล.ต.วราห์ กล่าว
ขณะที่พล.ต.สุรเดช เฟื่องเจริญ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ และสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่องต่างๆ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่ถูกยิงด้วยเอ็ม 79 เมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยพล.ต.สุรเดช กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกห่วงใยกำลังพลที่ออกปฎิบัติงานดูแลประชาชน และสถานที่สำคัญต่างๆ โดยเน้นย้ำให้ทำหน้าที่ด้วยความอดทน ยึดคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งย้ำให้กำลังพลปรับการทำงานตามสถานการณ์และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ในส่วนของกำลังพลที่ดูแลสถานการณ์ตามจุดตรวจความมั่นคงในพื้นที่การชุมนุมต่าง ๆ ให้ประสานงานกับทุกภาคส่วนและปรับเพิ่มจุดตรวจดูแลประชาชนให้กระจายครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น