ไขปริศนา..จากอเมริกาพิทักษ์โลก สู่ปูเน่าหล่นตุ๊บจากเก้าอี้เสียแล้ว

เคยเขียนไปตอนก่อนว่า รอยบาดหมางร้าวของอเมริกา รัสเซีย และจีน จากการแย่งชิงแหล่งพลังงานหมู่เกาะสแปรตลีย์ การลูบคมขายเรือดำน้ำจากรัสเซีย และจีน ให้เวียดนามที่เป็น 1 ใน 3 ฐานทัพของอเมริกาในย่านนี้นั้น สัมพันธ์กับเครื่องบินโดยสารมาเลย์ เที่ยวบิน MH 370 ซึ่งมีผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่อง 239 คน (ประกอบด้วย ชาวจีน 153 คน... ชาวมาเลเซีย 38 คน และชาวอินโดนีเซีย 7 คน รวมทั้งชาวออสเตรเลีย 6 คน ชาวอินเดีย 5 คน ชาวฝรั่งเศส 4 คน และ “ ชาวอเมริกัน 3 คน” ) ได้สูญหายไปกว่า 1 สัปดาห์ อย่างอัศจรรย์พันลึก

ในท่ามกลางข่าวลือต่าง ๆ และมาเลย์เซียตอนนี้ทยอยเปิดข้อมูล วันละนิดละหน่อยสร้างความมึนงง สับสน ให้คนทั่วโลก วันนี้วันหยุดวันสบายๆ เสธ ขอวิเคราะห์ (ผิดถูกบอกไม่ได้ เพราะประมวลจากภาพรวมข้อมูลต่าง) เพื่อฆ่าเวลาวางแผนถีบปูเน่าให้ตกรถตู้..ฮา

ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในเวลานี้ คือ เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เริ่มต้นบินขึ้นจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ ตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งสู่ทะเลจีนไต้ ปลายทางคือประเทศจีน หลังจากบินไปได้ชั่วโมงกว่าๆ ได้มีเครื่องบินล่องหน เช่น AWACS ของอเมริกา ที่มีความสามารถรบกวน การตรวจจับของเรดาห์ภาคพื้นดินบินประกบ จนสัญญาณเครื่องบินหายไปเฉยๆ แล้วใช้เครื่องบิน สเตลท์ ที่ล่องหนเรดาร์ได้เองประกบบังคับ

แล้วมีการเจาะเข้าระบบ FBW ซึ่งติดตั้งในเครื่องบินรุ่นนี้ เพื่อควบคุมเครื่องบิน จากภายนอก (คล้ายรีโมทบังคับ) เพราะแถวนี้อเมริกามีฐานทัพ และเรือบรรทุกเครื่องบิน..และเมื่อผ่านไปเร็วๆ นี้ ก็เพิ่งมาร่วมฝึกคอบบร้าโกลที่ไทย

อีกทางหนึ่งต้องมีหนอนบ่อนใส้ ภายในเครื่องบินโดยสารลำนั้น โดยอาจเป็นทีมซีลหน่วยปฎิบัติการณ์ลับของกองทัพสหรัฐ ที่แฝงตัวไปเป็นผู้โดยสาร ร่วมมือกับนักบิน แล้วทำการจี้ยึดควบคุมเครื่องบิน มีผู้เชี่ยวชาญความรู้ทางการบิน ตั้งใจปิดทั้งระบบสื่อสารและระบบเรดาร์แบบแอคทีฟเสีย โดยปิดแต่ละระบบห่างกัน 14 นาที มีผลทำให้เครื่องบินอันตรธานหายไป จากจอเรดาร์ของหอการบินพาณิชย์ แล้วก็ปิดระบบวิทยุระบบติดตามด้วย คนทำแบบนี้ได้จะต้องรู้ช่องว่างจุดอ่อนเครื่องบินนี้ จากบริษัทผู้ผลิต

จากนั้นเครื่องบินก็จะถูกบังคับทิศทางบิน สู่จุดหมายใหม่ ให้เปลี่ยนบินออกนอกเส้นทางเดิม โดยอาจบินต่ำๆ เพื่อหลบเรดาร์แบบสะท้อนกลับ วนกลับมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผ่านประเทศมาเลเซีย ไปทางช่องแคบมะละกา และหักวกหัวเครื่องขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกครั้ง ย้อนไปยังมหาสมุทรอินเดีย ผ่านหมู่เกาะอันดามัน ซึ่งเป็นทิศทางของสายการบินพาณิชย์ทั่วไปที่ใช้เส้นทางนี้ เวลาบินไปตะวันออกกลาง (waypoint N571 and P628) ซึ่งคนที่ทำได้ไม่ว่าควบคุมเครื่องจากภายนอก หรือใส้ศึกภายใน อย่างน้อยต้องมีนักบินเองให้ความร่วมมือแบบสุดๆ หรือเผลอๆ อาจทำเองซะด้วยซ้ำ แล้วขับเครื่องบินลำนี้ไปลงที่

1. สนามบินของกองทัพอากาศสหรัฐในฟิลิปปินส์ หรือ ประเทศที่เราคิดไม่ถึงที่มีทะเลแสนสวย และมีสาวๆ รอยยิ้มน่ารักที่สุดในโลกนี่แหละ..แนวนี้ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเสธ ต้องเอาภาพมาแฉ แน่ๆ..ฮา
2. แถวเกาะะโคทาวารี (นิโคบาร์) หรือเกาะดิเอโก้ การ์เซีย ซึ่งเป็นฐานทัพของสหรัฐฯ ทางทิศไต้มหาสมุทรอินเดีย หรือที่สาธารณรัฐเซเชลเลส ในมหาสมุทรอินเดีย..แนวนี้มีความเป็นได้มากที่สุด
3. ไปถึงประเทศ เติร์คเมนนิสสถาน หรือคาซัคสถาน..แนวนี้ก็ไม่น่าจะเลยยาวไปขนาดนั้นได้ เพราะต้องผ่านน่านฟ้าหลายประเทศ ที่สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของเขา และเรื่องต้องแดงมาหลายวันแล้ว

หลังทราบว่าเครื่องบินได้หายไป ญาติชาวจีนได้โทรศัพท์ไปหาผู้โดยสารคนหนึ่งที่อยู่ในเที่ยวบินนั้น โดยเมื่อโทรศัพท์ไปก็มีคนรับ แต่ไม่พูดโต้ตอบ จากนั้นก็ถูกตัดสายทิ้งไป และติดต่อไปไม่ได้อีกเลย อีกทั้งบริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบินที่ติดอุปกรณ์ติดตามเครื่องยนต์ของเขาทุกเครื่อง ก็รายงานว่าเครื่องยนต์ตังทำงานต่อไปอีกราว 6 ชั่วโมง หลังการหายไปจากจอเรดาร์ การข่าวนั้นตอนนี้ตัดประเด็นอื่นออกหมด เหลือเป้าหมายหลัก ก็คือ

1. เป้าหมายแรก คุมตัวพนักงาน และนักวิทยาศาสตร์บริษัทระดับสูง กว่า 10 คน และยึดข้อมูลในไดร์ท ที่เป็นเทคโนโลยี่ล้ำสมัยขั้นเทพที่สำคัญมาก เกี่ยวกับการรบกวนสัญญาณเรดาร์ หรือการควบคุมอาวุธแห่งอนาคต เพราะพนักงานกลุ่มนี้กำลังเดินทางไปประเทศจีน เพื่อขายและถ่ายทอดเทคโนโลยี่ ทางปัญญามนุษยชาติใหม่นี้ให้กับจีน

หลายคนอาจมีคำถามว่า ทำไมไม่ประกบตัวอุ้มขึ้นรถตู้ไปก่อนบิน !!..นั่นแสดงว่ายังไม่รู้จักอเมริกาดีพอ “ เล็กๆ พี่ไม่ ใหญ่ๆ พี่ทำ “ นี่คือสไตล์เขามานานแล้ว คือ เลือกทำแต่เรื่องไฮโซ ว่างั้นเถอะ..ตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก เอา M79 ไปยิงใส่เด็กเล็ก ผู้หญิง คนแก่ หรือศาลไคฟง หรือแบ่งแยกดินแดน สปป.ล้านนา แบบนี้เขาไม่ทำ !!

สงครามโลก ระเบิดนิวเคลียร์ญี่ปุ่น สงครามเวียดนาม สงครามเกาหลี หนุนสงครามอิรัก-อิหร่าน ต่อมาเปิดศึกกับอิรัก จัดการซัดดำ หนุนอิสราเอลที่เป็นไข่แดงล้อมด้วยอาหรับ โค่นตาลีบันอาฟกานิสถาน ลอบสังหารบินลาเดนกลางปากีสถาน ล้มซีเรียและจัดการกัดดาฟี แยกซูดานเหนือ-ไต้ หนุนอาหรับสปริงค์ จนผู้นำประเทศล้มเป็นโดมิโน่ กันเป็นแถบชั่วไม่กี่เดือน ขนาดอียิปต์ที่ผู้นำครองอำนาจแข็งโป๊กมา 30 ปี เป็นไง..เละเทะ และอีกสารพัดโปรเจกที่เขาทำ !! ล่าสุดหนุนประชาชนยูเครน ก่อสงครามกลางเมืองอีก เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ขายเรือดำน้ำให้เวียดนาม..

2. อีกเป้าหมายคือ ควบคุมเครื่องบินเอาสินค้าลับของตนเองกลับไป เพราะมีรายงานลับการบรรทุกสินค้าวัตถุนิวเคลียร์หรือชีวะภาพ โดยเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ชองสหรัฐ ไปพักของที่สาธารณรัฐเซเชลเลส ที่เป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของแอฟริกา ในมหาสมุทรอินเดีย จากนั้นขนต่อมาที่มาเลเซีย แล้วถ่ายขึ้นเครื่องบินลำนี้เพื่อไปที่ปักกิ่ง

แต่เหมือนสหรัฐ จะระแคะระคายรู้ว่ามีการทรยศขายความลับ ให้กับรัสเซีย และจีน ซึ่งเตรียมจะบังคับเครื่องบินเที่ยวนี้ ให้ไปจอดที่สนามบินมณฑลไหหลำก่อน เพื่อเช็คว่ามันคืออะไรกันแน่ สหรัฐจึงต้องมาชิงเอาสินค้านิวเคลียร์หรือชีวะภาพ เขาคืนไปเสียก่อน ตามวิธีการข้างต้น เพราะคอนเทนเนอร์สินค้านี้มันใหญ่ จึงต้องจี้เอาเครื่องบินนี้ไปทั้งลำเลย โดยติดผู้โดยสารและลูกเรือไปด้วย

และการจี้ควบคุมผู้โดยสารนั้น ไม่มีทางที่ผู้โดยสารจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาจะต้องใช้มืออาชีพทำ ปกปิดทั้งใบหน้าและสำเนียงภาษาที่ใช้ และเสธ คาดได้ว่าผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย (ถ้าไม่ขัดขืนหรือสู้เขา) ได้รับการดูแลตามสมควรพื้นฐาน เพราะจุดคุมขังที่พื้นที่เกาะโคทาวารี (นิโคบาร์) , เกาะดิเอโก้ การ์เซีย หรือไปที่ สาธารณรัฐเซเชลเลส ในมหาสมุทรอินเดีย นั้นเขาต้องเตรียมการด้านอาหารทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เครื่องนุ่งห่ม จุดคุมขัง และยารักษาโรค เพียงจำกัดเสรีภาพห้ามสื่อสารเท่านั้น

บางคนถามต่อว่ามาเลย์เซียที่เป็นเจ้าของสายการบิน และอินเดีย ที่เป็นเจ้าของเกาะฯ เขาจะไม่รู้หรือ !! ก็รู้ไง..แต่น้ำมันท่วมปาก และใครล่ะอยากขัดใจกับอเมริกา ไม่งั้นจะอ่วม ก็ต้องงึมๆ งำๆ ดำน้ำบุ๋งๆ ทำเป็นเบี่ยงประเด็นไปมา แล้วจะค่อยๆ ปล่อยออกมาทีละนิด..สังเกตุไหมว่ามีผู้โดยสารมาเลย์เซียถึง 38 คน..แต่มาเลย์เซีย กลับไม่มุ่งมั่น เอาจริงเอาจริง ในการค้นหาเท่าที่ควรจะเป็นวิสัย !!

แล้วจีนทำเหตุนี้เองได้ไหมเพื่อร้ายสหรัฐ ก็เป็นไม่ได้อีก เพราะมีผู้โดยสารของเขาอยู่มากที่สุดราว 153 คน แถมมีศิลปินแห่งชาติของเขาบนเครื่องด้วย เรื่องวัฒนธรรมนี่จีนเขาปกป้องคนและของเขาสุดๆ และตามประวัติของจีน เขาไม่ทำเรื่องทำนองแบบนี้ อีกทั้งไม่เกิดประโยชน์อันใด เพราะปลายทางเครื่องก็ต้องไปจอดที่ประเทศเขาอยู่ดี

เรื่องนี้กองทัพชายชุดขาวของไทยรู้ดี ในช่วงการค้นหาวันแรกๆ ที่เหนื่อยใจ กับการประสานงานจากมาเลยเซียมาก เพราะเขาให้ข้อมูลแนวเดียวกับ นปช. ตู่ เต้น..คือ แถๆๆๆ ให้ข้อมูลสับสน จนไทยต้องสั่งระงับการค้นหาในอ่าวไทยไว้ชั่วคราวก่อน

ระดับตำรวจโลกอย่างอเมริกา จะทำอะไรเขาต้องการให้มันบะเร่อเฮิ่ม และต้องตีกระทบชิ่งอีกหลาย Step ต่อจากงานนี้แน่ๆ เพื่อหวังผลทางการเมืองระหว่างประเทศ อีกหลายงานหน้า เขาวางหมากครั้งนี้เพื่อแผนการใหญ่ต่อไป คือแหล่งพลังงานตรงหมู่เกาะสแปรตลี่ย์ และบล๊อก 3 หางสายน้ำมัน ตรงอ่าวไทยต่อไปจังหวัดชายแดนไต้นั่นเอง

การทำครั้งนี้เพื่อไม่ให้จีนได้เทคโนโลยี หรือวัตถุร้ายแรงนี้ไป ก็เพื่อหยุด หรือชะลอ บล็อกไม่ให้จีนจอมก๊อบปี้ แล้วเพสท์ กลายเป็นผู้นำอาวุธไฮเทคใหม่ และถึงขั้นพัฒนาต่อยอด ถ่ายทอดไปให้เกาหลีเหนือ ที่ฮึ่มๆ จะยิงขีปนาวุธ ที่อ้างว่าติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่ประเทศต่างๆ แม้แต่อเมริกาเองยังเคยโดนขู่จนป่วนมาแล้ว ถ้าหยุดจีน และรัสเซียได้ เขาก็จะยังคงดุลอำนาจทางทหารในภูมิภาคเอเซียนี้ต่อไป

ที่น่าสนใจก็คือ หลังจากนี้อเมริกาผู้พิทักษ์โลก ที่กำกับการแสดง จะมามุกไหน กับชีวิตผู้โดยสารกว่าสองร้อยคน ที่ควบคุมอยู่..การเปิดม่านฉายหนังโปรแกรมหน้า จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้แน่ แต่อาจจะทำคนดูถึงกับอ้าปากหวอ ตาค้า เหมือนดูหนังฮอลีวู๊ดว่า..มันคิดพล๊อตเรื่องนี้ได้ไงวะนี่ !!

จากเมืองนอก ตัดฉากมาที่เมืองไทย เจ้าหญิงแสนโง่แห่งล้านนา วันนี้ไปเชียงใหม่ ไปกินก๋วยเตี๋ยว 3 บาท แต่คนไปดันไม่เต็มบาท เฟอะฟะหล่นตุ๊บจากเก้าอี้เสียแล้ว..แต่ดูภาพประกอบเองเถอะ..เสธ ละเพลียจิต..

ทำแต่เรื่องขายหน้า หลุดไปทั่วโลกทุกวัน เคยเห็นผู้นำประเทศไหนเขาทำบ๊องๆ แบบนี้บ้างไหมเนี่ย (ไปดูที่ https://www.youtube.com/watch?v=6Bv6LHggi0I มีกระเผลกๆ ด้วย)

ไป ว.5 จนฟ้าเหลืองมาอีกละมั้ง ทั้งเอว และขา เลยอ่อนระโหยโรยแรง..ฮา

@เสธ น้ำเงิน
ที่มา https://www.facebook.com/topsecretthai





เครื่องบินลำเบ้อเริ่มหายไปไหน!!!!
ตอนนี้มาเลย์ ไทย สิงค์โปร์ กำลังถูกประณามจากนานาชาติว่ารู้เห็นเรื่องเครื่องบินหายจะซวยกันไม่รู้ตัว
๑ มาเลย์ถูกหาว่าปกปิดข้อมูลเพราะรู้ตั้งแต่วันแรกว่าเครื่องบินถูกจี้และบินกลับผ่านน่านฟ้ามาเลย์ แต่ทำไมยังหลอกให้ชาติต่างๆไปค้นหาทางทะเลด้านเวียตนามนับสัปดาห์ มิหนำซ้ำเป็นเจ้าของเครื่องบินแต่ไม่มีมีท่าว่าจะเดือดร้อนเสียเลย
๒ ไทยและสิงค์โปร์ รู้ว่าเครื่องบินลำนี้บินกลับผ่านและใกล้น่านฟ้า ทำไม่ไม่เปิดข้อมูลและยังร่วมทำเป็นโง่ส่งเรือไปตรวจค้นทางเ...วียตนาม
๓ ชัดขึ้นว่ามีการหลอกชาติต่างๆและหันเหความสนใจนานาชาติไปที่ทะเลเวียตนามถึง ๗ วันทั้งๆที่รู้ว่าเครื่องบินบินกลับแล้ว การถ่วงเวลา ๗ วันเพื่อทำอะไรกัน และทำอะไรกันที่ไหน
๔ สหรัฐรู้ดีว่าใครจี้เครื่องบิน และไปสนามบินไหน ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมทำโง่ส่งเรือมาค้นหาที่ทะเลเวียตนามด้วย และทำไมจู่ๆเรือพิฆาตซึ่งไม่ใช่เรือค้นหาเครื่องบินตกไปโผล่ที่มหาสมุทรอินเดีย ไปปรากฎเพื่อป้องกันหรือสะกัดอะไรแถวนั้น ทำให้ข้อกล่าวหาของรัสเซียที่ว่า cia จี้เครื่องบินลำนี้ไปลงที่สนามบินในหมู่เกาะดิอาร์โก้กาเซีย ในมหาสมุทรอินเดีย มีน้ำหนักขึ้นมาทันที
๕ ท่าทีของจีนยั๊วะจัดมาก และไปลงหนักที่มาเลย์เซีย เป็นไปได้ไหมว่า เรื่องนี้มีการสบคบกันสองถึง ๓ ประเทศ
๖ ที่น่าสนใจคือผู้โดยสารทั้งหมดยังคงปลอดภัยหรือตายหมดด้วยการฆาตกรรมหมู่เพื่อปิดปาก ไม่นานคงแฉกันระเบิดแน่

พบสัญญาณอ่อน'MH370'ลงจอดแล้ว! !!!!!
คมชัดลึกออนไลน์

ตำรวจมาเลเซียโยงประเด็น'นักบิน'ที่หายกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง พบ'ลูกเมีย'ไม่อยู่บ้านก่อนเครื่องบินหาย ชี้พบสัญญาณอ่อน ๆ ที่เชื่อว่า มาจากเครื่องบินที่ลงจอด
...
17 มี.ค.57 นายซอฮารี อาห์หมัด ชาห์ กัปตันวัย 53 ปี ของเครื่องบินโดยสาร 777-200 ER เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย กำลังถูกโยงไปเข้ากับเรื่องการเมือง โดยมีการเผยแพร่ภาพเขาสวมเสื้อยืด พิมพ์ตัวอักษรว่า "Democracy is dead" หรือ "ประชาธิปไตยได้ตายไปแล้ว"

เจ้าหน้าที่สืบสวน บอกว่า เขาฝักใฝ่สนับสนุนนายอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้าน ที่ได้ชื่อว่า เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย และเป็นที่นิยมของชาวมาเลเซีย ที่มองว่า เขาถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และการที่นายอันวาร์ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ในข้อหาวิปริตทางเพศ อาจสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้กับนายชาห์ ที่ไปนั่งฟังการพิจารณาคดีอยู่ด้วย จนตัดสินใจไฮแจ็คเครื่องบินเสียเอง เพื่อประท้วงรัฐบาล เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เขาก็นำเครื่องบินออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ซันเดย์ มิร์เรอร์ ยังรายงานด้วยว่า ภรรยาและลูก 3 คน ของนายชาห์ได้เก็บข้าวของออกจากบ้านไป ก่อนที่นายชาห์จะขึ้นบินหนึ่งวัน ทั้งนี้ แต่ก็มีรายงานว่า เขาแยกหรือไม่ก็หย่าขาดจากภรรยาแล้ว แต่ยังอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ซึ่งไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ โดยตำรวจได้เข้าค้นบ้านเขาที่อยู่ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนจะหิ้วกระเป๋าใบเล็กหลายใบออกไป และในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้นำแลปท็อปไป แล้ว 2 เครื่อง ในจำนวนนี้ เชื่อว่า บรรจุข้อมูลของเครื่องจำลองเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ที่ติดตั้งในบ้านของเขาด้วย แต่ไม่พบแลปท็อปส่วนตัวของเขา ที่เชื่อว่าจะถูกนำขึ้นเครื่องบินไปด้วย

ทั้งนี้ เที่ยวบิน MH370 ที่มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ได้หายไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว พร้อมกับคนบนเครื่อง 239 คน และแม้ว่าจะมีปฏิบัติการค้นหาของนานาชาติ แต่ก็ไม่มีสัญญาว่าจะพบเครื่องบิน หรือซากเครื่องบินแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ ทางการมาเลเซียได้ขอความร่วมมือจากนานาชาติเพิ่มขึ้นเป็น 25 ชาติแล้ว โดยแหล่งข่าวเผยว่า ระบบสัญญาณของเครื่องบินถูกปิดการใช้งาน ก่อนที่นักบินจะติดต่อกับหอบังคับการบิน โดยไม่ได้บอกว่าเกิดปัญหาใด ๆ ตอกย้ำทฤษฎีที่ว่า นักบินหนึ่งหรือทั้งสองคน เกี่ยวข้องกับการนำเครื่องบินออกนอกเส้นทางทำให้ทางการต้องเร่งสืบสวนและค้นประวัติโดยละเอียดเพื่อหาเหตุจูงใจ

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า เครื่องบินถูกเบี่ยงออกนอกเส้นทาง ขณะที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางแห่งสหพันธ์ของสหรัฐ หรือ FBI ระบุว่า การหายไปของเครื่องบิน อาจเป็นการถูกจี้บังคับและเป็นไปได้ว่าผู้โดยสารหลายร้อยคน ถูกควบคุมตัวไว้ หลังจากเครื่องบินร่อนลงจอดในพื้นที่ใดที่หนึ่ง เนื่องจากพบสัญญาณการสื่อสารกับดาวเทียมของเครื่องบินถูกส่งออกมาจากภาคพื้นดิน โดยถ้าเครื่องบินยังทำงานอยู่ และมีพลังไฟฟ้าสำรองมากพอ เครื่องบินก็จะส่งสัญญาณเรดาห์ออกมา

จากข้อมูลล่าสุด พบว่า มีจำนวนรันเวย์ที่เครื่องบินอาจร่อนลงจอดอยู่เป็นจำนวนมาก และน่าจะอยู่ในระดับอย่างน้อย 5,000 ฟุต สถานีวิทยุ WNYC ของสหรัฐ ระบุว่า มีอยู่ 634 แห่งที่เครื่องบินจะลงจอดได้ ตั้งแต่ออสเตรเลียไปจนถึงมัลดีฟ และปากีสถาน แต่จำนวนที่แท้จริงอาจจะมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับว่า เครื่องบินไปได้ไกลแค่ไหน

เจ้าหน้าที่สืบสวนของสหรัฐ บอกด้วยว่า มีการส่งสัญญาณอ่อน ๆ ออกจากเครื่องบินนานหลายชั่วโมง หลังจากขาดการติดต่อกับภาคพื้นดิน แต่เรดาร์ทหารได้แสดงให้เห็นว่า เครื่องบิน อยู่ในระดับ 45,000 ฟุต ซึ่งเกินกว่ามาตรฐานกำหนด ที่อาจทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารหมดสติได้

แหล่งข่าวระบุว่า ตำรวจมาเลเซีย ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจาก FBI ได้ตรวจสอบภูมิหลังทั้งเรื่องการเมืองและการนับถือศาสนาของนักบินทั้งสอง และได้ปิดล้อมบ้านของนายชาห์เพื่อนร่วมงานของนายชาห์ บอกว่า เขาเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม และสนับสนุนนายอันวาร์อย่างเปิดเผยSee More